SEO TIPs แนวทางการทำให้บล็อกของคุณมีอันดับอยู่ในหน้าแรกของ Google

SEO เป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการทำบล็อกและเว็บไซต์ มาดูเทคนิคที่จะทำให้เว็บของคุณอินเด็กซ์ไว และแรง ที่สำคัญกูเกิ้ลรัก นะถ้าทำตามนี้

การหาเงินจาก YouTube

การหาเงินจาก YouTube เป็นเรื่องที่คนคิดไม่ถึง เพราะง่าย และไม่ต้องลงทุน

การเพิ่มค่าคลิกให้ Adsense

การหาเงินด้วยการติดแบนเนอร์ Adsense อย่างถูกต้อง ย่อมได้ค่าคลิกแพงเสมอ

การทำ Sitecmap Blogger ง่ายสุดๆ

การทำ Sitecmap Blogger ง่ายๆ ใช้เวลาแค่ ไม่ถึง 1 นาทีก็เสร็จ

บล็อกเกอร์สร้างเงินให้คุณได้จริงหรือ? 2

Blogger บล็อกเกอร์ นอกจากจะฟรี แล้วยัง ทำเงิน หรือ สร้างรายได้ให้คนได้เงินแล้ว เราจึงนำข่าวมาบอก ดีกว่าการทำแค่ไปเปิดเน็ตดูหน้านอไปเรื่อยเปื่อย อ่านที่นี่แล้วจะรู้

วิธีเขียนบทความ ที่ถูกต้อง

การเขียนบทความ หรือ เนื้อหา สำหรับบล็อกที่ถูกต้อง และได้ผล ย่อมทำให้ seo มีผลเป็นอย่างดี

Blogger Templates เพื่อใช้สมัคร บัญชี Google Adsense

Template หรือ Theme สำหรับการใช้เขียนบล็อก เพื่อใช้ สมัคร Google Adsense อย่าพลาด!!!!!

3 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์

3 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์


บล็อกเศรษฐี/Blogsetthi เราอยากจะกล่าวถึงเรื่อง 3 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์ คือ เป็นที่ทราบกันแล้วว่า เวลาเราทำเว็บไซต์ หรือ ทำบล็อกแล้ว สิ่งที่เราต้องการคือ แทรฟฟิค การจะได้มาซึ่งแทรฟฟิค ก็มีวิะการทำที่หลากหลาย เพื่อให้ได้มา สิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลยคือ การสร้างลิงค์ เพื่อให้ได้ back link(s) และ traffic นั้นเอง
สร้างแบ็คลิงค์คุณภาพ

ส่วนสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์ นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราควรใส่ใจ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การได้มาซึ่งลิงค์ที่มีคุณภาพนะครับ ผมจำได้ตอนที่เริ่มมาทำบล็อก ทำเว็บ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เห็นเขาบอกว่า ให้สร้างลิงค์ ผมก็สร้างๆๆๆๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดแต่ว่า จะสร้างให้ได้เยอะๆ ประมาณนั้น แต่ไม่มีผลดีเท่าไรครับ

ทำไมต้องพูดถึงสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์


ปกติการทำแบ็คลิงค์ เราจะทำการสร้างลิงค์ไว้ตามบล็อกต่างๆ ที่เห็นว่า ดูดีมีสกุล เผื่อจะได้ดึงของเราได้ดูดี จนอยู่อันดับหน้าต้นๆ ของกูเกิล ดังนั้น เราก็จะก้มหน้าก้มตาหาให้ได้ แต่มีสิ่งต้องหลีกเลี่ยงเหมือนดังนี้

1.ถนนทุกสายมุ่งสู่หน้าโฮมเพจ

โดยปกติแล้ว เวลาเราไปสร้างลิงค์ในที่ต่างๆ เราก็มุ่งที่จะใส่ลิงค์ให้ตรงไปที่หน้า โฮมเพจ เพราะเป็นหน้าแรก ของเว็บ ด้วยความคิดว่า เมื่อคนเข้ามาที่นี่แล้วก็จะสามารถ ไปต่อในเพจหรือหน้าอื่น ในเว็บ/บล็อกของเราได้โดยง่าย เพราะสามารถมองเห็นได้ทุกอย่าง ซึ่งสิ่งที่น่าคิดคือ เขาบอกว่า มันเหมือนกับอะไรที่ "กว้างเพียง 1 นิ้ว แต่ลึกถึง 1 ไมล์" คือ เหมือนมันแคบเกินไป แล้วต้องเดินเข้าไปอีกลึกมาก กว่าจะถึงที่หมาย 

เขาจึงแนะนำว่า ให้ทำการ "กระจายลิงค์" อันนี้คนทำแอดเซ้นส์ (Google Adsense) รู้ดี ว่าการทำแบบนี้ เป็นการกระจายให้เว็บมีรายได้มากขึ้น จากหลายๆ หน้า ใน การกระจายลิงค์ คือ เมื่อไปทำลิงค์ในแต่ละที่ก็ กระจายไปหน้าอื่นๆ ด้วย อย่าชี้มาที่โฮมเพจอย่างเดียว ซึ่งก็พลอยทำให้เป็น แบ็คลิงค์ที่มีคุณภาพ ในสายตาของกูเกิ้ลด้วยเช่นกัน

2. มีความพอเพียงในลิงค์ที่ได้มา

การที่เราทำเว็บไซต์นั้น อย่างไรก็แล้วแต่ เราต้องพยายามหาลิงค์เข้าเว็บเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน เพราะในธรรมชาติแล้ว คู่แข่งจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากหยุดเมื่อไร ก็โดนแซงทันทีเราจะเห็น เว็บที่มีระบบใหญ่ๆ เขาไม่เคยหยุด ทำ seo ให้เว็บตลอด จ้างพนักงานจำนวนมากมาย เขาไม่เคยหยุดเลย ดังนั้น ในโลกของการสร้าวบล็อกหรือเว็บไซต์นั้น เรื่องลิงค์ไม่มีความพอเพียง หรอกครับ ทำไปเรื่อยๆ ให้เป็นธรรมชาติ อย่าไปอาศัยของฟรีที่ทำทีหนึ่งได้ 500 ลิงค์พันลิงค์ อันนั้นอาจจะทำให้ได้ลิงค์ด้อยคุณภาพมากกว่านะครับ เขาว่า "การรู้สึกพอเพียงแต่ลิงค์ที่ได้มาแล้วหยุด เป็นเหมือนยาพิษ" ดังนั้น อย่าหยุดครับพี่น้อง

3.มุ่งเกี่ยวดองกับนิชที่เกี่ยวข้องก็พอ

อันนี้ความจริงเป็นที่รู้กันอยู่แล้วเนาะ ว่าเวลาหาแบ็คลิงค์ เราจะหาเฉพาะนิชคีย์เวิร์ด ที่เกี่ยวข้องกับบล็อกของเราเท่านั้น ทั้งนี้เพราะ ต้องการจะให้กูเกิ้ลรัก เว็บไซต์หรือบล็อก ของเราไงครับ เขาจะได้มองว่า เป็นลิงค์ที่มีคุณภาพ และเป็นการอ้างถึงเพราะเนื้อหาของเราดี ไม่ใช่เป็นการจ้างทำลิงค์ ซึ่งแน่นอนว่าแบบนี้ กูเกิ้ลไม่รัก ต้องไปคอมเม้นท์ หรือ ไปเป็นนักเขียนรับเชิญในเว็บที่ใกล้เคียงกับเราเท่านั้นนะครับ

บทความนี้ แปลงมาจาก https://pingler.com

การสร้างแบ็คลิงค์นั้นยากและต้องใช้เวลา แต่หากทำตาม 3 สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเวลาสร้างลิงค์เข้าเว็บไซต์ ก็จะทำให้บล็อกหรือเว็บของเพื่อนๆ สามารถยืนอยู่ได้ในระยะยาวๆ แล้วได้รับแรงค์ในหน้าต้นๆ ไปเรื่อยๆ ครับ

การเพิ่มแทรฟฟิคเข้าเว็บไซต์

การเพิ่มแทรฟฟิคเข้าเว็บไซต์

การเพิ่มแทรฟฟิคเข้าเว็บไซต์ นับว่าเป็นเรื่องหลักของคนทำ แอดเซ้นส์ เลยนะครับ อย่างที่เราพูดกันว่า แทรฟฟิคคือเงิน เพราะถ้าคนเข้าเว็บมาก ก็มีโอกาสได้เงินมากขึ้น ตามไปด้วย

ทาง กูเกิ้ลได้ให้คำแนะนำไว้ ว่า หากต้องการเพิ่มแทรฟฟิค ด้วยการทำเนื้อหาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ขอนำเอาหัวข้อเขามาตั้งและพูดในรูปแบบผมก็แล้วกันนะครับ

จะเพิ่มแทรฟฟิคให้เว็บไซต์ ด้วย 5 วิธีง่ายๆ คือ

1. มีเป้าหมาย มีความสอดคล้องกัน หมั่นอัพเดท

ทาง Adsense บอกว่า ต้องมีทั้ง 3 อย่างนั้น เพื่อที่จะให้ ผู้เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกของคุณ สนใจและเข้ามาอ่านอยู่สม่ำเสมอ นั่นคือ 
-เป้าหมายในการเขียน คือ มุ่งที่ผู้อ่านที่สนใจในเรื่องใด ข้อนี้เราสามารถชำเลืองไปดูเรื่อง Niche Keyword ที่คุณทำอยู่ได้เลยนะครับ รักษามันไว้
หาแทรฟฟิค ด้วยสร้างเนื้อหาดี-เมื่อมีเป้าหมายที่แน่นอนแล้ว ก็ต้องนำเสนอเรื่องที่สอดคล้องกัน เช่น ถ้าทำเรื่อง การท่องเที่ยว ก็ต้องมีบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่ไหนบ้าง เป็นที่ๆ ไป แต่ถ้าเว็บใหญ่ขึ้น อาจจะแพลมๆ ไปเรื่อง อาหาร ที่พัก ฯลฯ
-อัพเดทบล็อกอย่างสม่ำเสมอ คือ อย่าปล่อยให้บล็อก หรือ เว็บไซต์ ของคุณร้าง อย่างน้อยเดือนหนึ่งก็น่าจะสัก 2-4 บทความ โพสต์เข้าไปเลยครับ

2. สร้างวีดีโอ ตามความต้องการ

คือการสร้างวีดีโอ เป็นของตัวเองขึ้นมา เพราะจะสามารถดึง ผู้เข้ามาเยี่ยมชม ให้อยู่ในเว็บนานๆ ซึ่งทั้งนี้ ก็รวมไปถึง การมีรูปภาพ ไสลด์โชว์ ต่างๆ ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะ Unique Content (เนื้อหาไม่ซ้ำกับของคนอื่น) 

ส่วนตัวผมว่า น่าจะทำได้ถึงสองอย่างเลย คือ โพสต์ที่ Youtube แล้วนำมาโพสต์ที่นี่ด้วย ได้เงินทั้งจากในยูทูบ(ถ้ามีคนสนในดู) และ ที่บล็อกด้วย

บางคน อาจจะสงสัยว่า การนำเอา วีดีโอจาก ยูทุบมาใช้ ผิดกฎของ Google Adsense หรือเปล่า? จากที่ได้อ่านของฝรั่งหลายๆ แห่ง ต่างก็ไม่สามารถยืนยันได้ จนกระทั่งไปเจอเจ้าหนึ่ง เขาก็ได้อ้างอิง คำตอบจาก ทีมงานของกูเกิ้ลแอดเซนส์ ที่ได้ตอบผู้สอบถามไว้ ว่า 

...กรณีที่นำวีดีโอจาก Youtbe มาใส่ในไซต์นั้น ถ้าไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ของยูทูบ ก็ย่อมทำได้ โดยที่ วีดีโอนั้น เป็นเพียงสิ่งที่นำมาเสริมเนื้อหา (บทความ) ที่เขียน ไม่ใช่การนำเอาแต่ วีดีโอมาโพสต์ เพียงอย่างเดียว...
นี่คงเป็นตัวยืนยันได้อย่างหนึ่งครับว่า เรานำมาใส่ได้

แนะนำ วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger

แนะนำ วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger

ทำไม BlogSetthi เราต้อง แนะนำ วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger คำตอบคือ เพราะว่าเครื่องมือ ในเว็บไซต์ที่แนะนำนี้ เป็นที่นิยมกันครับ มันสามารถทำให้เราใส่ แบนเนอร์ ของแอดเซ้นส์ ใน xml Blogger template ได้โดยตรง

เนื่องจาก โค้ด โฆษณาของ Google Adsense นั้นเป็น  javascript เราไม่สามารถนำมาใส่ใน บล็อกเกอร์ โดยตรงได้ (เว้นแต่ใส่ใน ส่วนที่เป็น วิดเจต) ทำให้คนที่ต้องการใส่ไว้ใน เนื้อหา หรือ ในโพสต์ ไม่สะดวก เลยทำให้มีการหาวิธีที่จะนำมาใส่ให้ได้ ซึ่งก็มีออกมาให้ใช้กันจนได้ ซึ่ง ไม่ผิดกฎของ กูเกิลแอดเซ้นส์เลยนะครับซึ่งตัวนี้ สามารถแปลงโค้ดได้หลากหลายชนิดนะครับ ลองอ่านที่ ....... 

ไม่พูดมากครับ ใครอยากจะแปลง ให้ทำตามง่ายๆ

ให้ไปที่เว็บนี้

http://www.eblogtemplates.com/blogger-ad-code-converter

แปลงโค้ดเพื่อใส่ blogger

วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger มีดังนี้

1. ก็อปปี้ โค้ด Google Adsense ของคุณมา 
2.วางใส่ลงใสกรอบที่ว่าง (หมายเลข 1)
3. คลิกปุ่ม Convert Ad  Code (หมายเลข 2 แล้วรอสักครู่)
4. จะปรากฎโค้ดที่แปลงเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม Hilight (หมายเลข 3) 
5. คลิกขวาเพื่อก็อปปี้ 
6. นำโค้ด ไปวางใน xml บล็อกเกอร์ ตามแต่คุณต้องการครับ 

แปลงโค้ดใส่blogger

สำหรับท่านที่ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องแปลงโค้ด ให้ลองอ่านที่
วิธีการ แปลงโค้ด aGoogle Adsense ใส่ Blogger

ขอจบคำ แนะนำ วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger แบบง่าย สะดวก ฟรี!!!! เพียงแค่นี้ครับ

วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger

วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger

วันนี้ ทาง BlogSetthi อยากจะพูดถึงเรื่อง วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger นะครับ เพราะแต่ก่อน ตอนที่ผมทำใหม่ๆ ก็ไม่รู้เหนือรู้ใต้ ละ ได้โค้ดมา ก็เอาไปวางปั๊บ พอเปิดดู อ้าว ไม่แสดงซะงั้น 

วิธีการ แปลงโค้ด Google Adsense ใส่ Blogger แต่เดิมนั้น เป็นปัญหาของ บล็อกเกอร์ มือใหม่ทุกคนครับ เพราะนี่เป็นหัวใจ ของการที่เราจะได้เงินรายได้ จากการเขียนบล็อก นะครับทำไมหนอ แค่เอา โค้ด Adsense มาใส่ใน Blogger ถึงยากเย็นปานนี้ 

แปลงโค้ดแอดเซ้นส์ไปใส่บล็อกเกอร์

ในที่สุด ทางทีงานบล็อกเกอร์ ของ Google ก็ได้ยิน ดังนั้น เขาก็เลยทำให้อะไรง่ายขึ้นมาอีกมาก เพื่อให้ผู้เผยแพร่หรือ เจ้าของบล็อกทั้งหลาย สามารถทำการปรับแต่งแอดเซ้นส์ของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการเลือกที่เช็คบ็อกซ์นะครับ

ถ้าวาง โค้ด Adsense ที่เป็น javascript ใส่ใน xml blogger

เกิดเรานำเอา ถ้าวาง โค้ด Adsense ที่เป็น javascript ใส่ใน xml blogger โดยตรง ผมที่ได้คือ จะมีข้อความที่ แจ้งเรื่องของข้อผิดพลาด หรือ Error มาเตือนเรา ทันที่ เว้นแต่ เรานำไปใส่ในวิดเจ็ต

นับว่าเป็นสิ่งดีนะครับ ที่เราสามารถทำได้โดยใช้ วิดเจต (widget) ก็ยังมีข้อจำกัด และ ไม่ยืดหยุ่น ให้เราทำได้ตามความต้องการได้หมดเสียทีเดียว ทีนี้ หากต้องการจะนำ โค้ดที่เป็น javascript ของ Adsense ตามใจตัวเองจะทำอย่างไร? ถ้าไม่ใช้ วิดเจท คำตอบคือ ไม่ง่ายอย่างที่คิด หรอกครับ

บางคนที่ ชอบลองหน่อย ก็อาจจะต้องการวาง โค้ดโฆษณา ของ Google AdSense ที่เป็น javascript ไปที่ Template ของ Blogger ที่เป็น xml โดยตรง แต่ผลที่ได้คือ มีข้อความเด้งมาเตือนว่า

Your template could not be parsed as it is not well-formed. Please make sure all XML elements are closed properly. XML error message: The processing instruction target matching “[xX][mM][lL]” is not allowed.”

หรือไม่ก็ เตือนด้วยข้อความ ว่า

“Your template could not be parsed as it is not well-formed. Please make sure all XML elements are closed properly. XML error message: The content of elements must consist of well-formed character data or markup.“.

เอาล่ะ ชักแม่นางทั้งห้า เอ้ย แม่น้ำทั้งห้า มานานแล้ว เขาเรื่องอีกที ว่า ในที่สุด เราก็สามารถแก้ไข ปัญหานี้ได้ โดยอาศัยการแปลงโค้ด หรือ เรียกกันว่า Blogger xml parser ที่จะทำให้ javascript code สามารถแสดงโฆษณาได้ โดยไม่ต้องโดนเตือนข้อผิดพลาดอีกต่อไป

การใช้ Blogger Ad Code Converter

Template ของ Blogger บางอย่าง อาจจะสามารถแปลง โค้ดให้เราได้โดยอัตโนมัติ หรือ Adsense  Ready นะครับ แต่ถ้าเทมเพลตทั่วไป อาจจะต้องอาศัยการแปลงโค้ดเสียก่อน จึงจะสามารถนำไปติดได้ โดยทั่วไปโค้ดของ Google Adsense กรณีที่ ขนาดแบนเนอร์ เป็น 468x60 จะมีรูปแบบดังนี้

วิธีการ back up บทความ และ คอมเม้นท์ ใน Blogger

วิธีการ back up บทความ และ คอมเม้นท์ ใน Blogger


วันนี้ Blogsetthi.blogspot.com ขอพูดถึงเรื่อง วิธีการ back up  บทความ และ คอมเม้นท์ ใน Blogger ด้วยเชื่อว่า มีกลุ่มบล็อกเกอร์ ที่ใช้ blogger.com เป็นหลักในการทำบล็อก ย่อมต้องการจะแบ็คอัพข้อมูลไว้ เพื่อป้องกันการโดนลบบล็อก ซึ่งหากได้ทำไว้แล้วก็สามารถอัพโหลดขึ้นไปได้ง่ายๆ ทั้งบทความ และคอมเม้นท์ ที่มีอยู่ทั้งหมดอีกครั้ง เพราะ บล็อกเกอร์ ให้สิทธิ์เราให้ทำสิ่งเหล่านี้ได้ใหม่ 
อ่านต่อได้ที่ http://blogsetthi.blogspot.com
การแบ็คอัพบล้อกเกอร์

วันนี้ก็เลยตั้งใจไว้ว่าจะมาบอก วิธีการ back up บทความ และ คอมเม้นท์ ใน Blogger เพื่อจะได้ทำการแบ็คอัพไว้เป็นระยะๆ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความเสื่ยงได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์การ การ back up 

-บทความและคอมเม้นท์ต่างจะได้ไม่หายไปไหน
-เป็นประโยชน์อย่างสูงสำหรับบล็อก 18+ (เพราโอกาสโดนลบมีสูงมาก)
-ควรอย่างยิ่งที่ต้อง ทำการ back up บล็อกของคุณไว้ เนื่องจากทาง Blogger อาจจะลบบล็อกของคุณได้หากมีการสแปมคอมเม้นท์เยอะ
-คุณสามารถนำเอาไฟล์ที่ ได้ทำการ back up ไว้นี้ไปใส่ไว้ในบล็อกใหม่ ทั้ง บทความและคอมเม้นท์ (ไม่ต้องหาบทความใหม่)

วิธีการ back up บทความ และ คอมเม้นท์

การแบ็คอัพ บทความและคอมเม้นท์ ใน Blogger นั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะทางบล็อกเขาได้จัดเตรียมเครื่องมือให้เราเรียบร้อยแล้ว

วิธีการจึงสามารถ ทำได้ตามลำดับ ดังนี้
-ให้ไปที่ blogger dashboard
-ให้เลือกที่ setting แล้วเลือกเมนู other

สอนการแบ็คอัพบล็อกเกอร์เพื่อโคลนบล็อก

-เมื่อแล้วมาแล้วจะเห็นตัวเลือก export blog ที่อยู่ในเครื่องมือบล็อก คลิกที่ปุ่มนี้เลยครับ

สอนการแบ็คอัพบล็อกเกอร์

-หลังจากนั้น จะเห็นตัวเลือกสำหรับ ดาวน์โหลดบล็อก ให้ คลิกที่ปุ่ม "Back up Content" เพื่อบันทึก บทความ รูปภาพ และ คอมเม้นท์ต่างๆ ทำแค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วครับ คุณจะได้เป็นไฟล์เล็กๆ ไม่ต้องตกใจเพราะระบบเขาทำมาดีแล้วครับ

การอิมพอร์ต เอ๊กซ์พอร์ต ไฟล์ บล็อกเกอร์ที่แบ็คอัพไว้
การอิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต

เมื่อคลิกแล้วจะมีป๊อบอัพขึ้นมา ให้คลิกที่ปุ่ม Save to Computer แค่นี้ไฟล์ก็จะเข้าไปอยู่ที่คอมพ์ของคุณแล้วครับสบายใจไป 99% ละ


วิธีการ อัพโหลด back up บทความ และ คอมเม้นท์ ใส่บล็อกใหม่หากคุณต้องการจะทำการ อัพโหลด back up บทความ และ คอมเม้นท์ ที่ได้ทำไว้ ไปใส่บล็อกใหม่ คือเข้าเหมือนกับตอนที่เราจะทำการ แบ็คอัพ นั่นแหละครับ ต่างกันแค่ ปุ่มสุดท้ายเท่านั้นเอง 

วิธีการทำได้ดังนี้

-เลือกบล็อกที่ต้องการจะอัพโหลดไฟล์ back up ที่เก็บไว้
-ให้คลิกตัวเลือกดังนี้ setting > Other > เมื่อมาถึงตรงนี้ ในบล็อกทูล ให้คลิกที่ปุ่ม "import" (หมายเลข ๔ ภาพข้างบน)

-จะมีป๊อบอัพบ็อกซ์ขึ้นมา ก็ติ๊กที่ สี่เหลี่ยม (หมายเลข ๕)
-คลิกที่ปุ่ม Import from Computer (หมายเลข ๖)
-จากนั้นก็ เลือกไฟล เพื่อทำการอัพโหลดครับ

การแบ็คอัพบล็อกเกอร์
การอัพโหลดไฟล์ .xml ที่แบ็คอัพไว้

-ตอนนี้ก็แค่เลือกไฟล์ ที่ได้แบ็คอัพและดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ แล้ว อัพโหลดขึ้นไปเลยครับ 
-และแล้วตอนนี้ ทั้งบทความ รูปภาพ และคอมเม้นท์ ต่างๆ ของคุณจากบล็อกอันเก่าก็มาปรากฎตัวที่บล็อกใหม่นี้แล้วครับ

กรณีไม่สามารถ Import ฺไฟล์ ที่ Back up ได้

-ให้ลบคุ้กกี้
-ให้เปลี่ยนบราวเซอร์

นี่เป็น วิธีการ back up บทความ และ คอมเม้นท์ ใน Blogger ซึ่งเราได้กล่าวถึงทั้งการ ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ และ อัพโหลด ขึ้นไปไว้ที่บล็อกใหม่ ซึ่งที่ต้องพูดตรงนี้ เพราะว่ามีผู้ใช้รายใหม่ จำนวนไม่น้อยไม่รู้และไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร เราจึงนำมาเสนอให้ครับ

การหา URL ของ Blogger / Blogspot

การหา URL ของ Blogger / Blogspot


Blogger / Blogspot Sitemap


วันนี้เรากลับไปสู่จุดเริ่มต้น สำหรับคนทำ Blogger / Blogspot อีกครั้งครับ ทาง Blogsetthi.blogspot.com เราจึงนำเรื่อง การหา URL ของ Blogger / Blogspot มานำเสนอ เพราะคิดถึงอดีต ที่ตัวเองได้ยินเขาพูดกันถึงเรื่อง นี้แล้ว ไม่สามารถหา ของตัวเองเจอ (เขิลลลจัง)

ใครยังไม่ได้สร้าง Sitemap ให้ Blogger / Blogspot ตัวเอง ก็คลิกลิงค์นี้เลยครับ การสร้าง Sitemap ให้ Blogger

เอาเป็นว่า ตัวบล็อกเกอร์ เองก็มี ไซต์แมป เหมือนกัน เพียงแต่ว่า URL ของ Blogger / Blogspot นี้มีความแตกต่างไปจาก เว็บไซต์ รูปแบบอื่นอยู่นิดหน่อย

ซึ่ง ถ้าเป็นเว็บไซต์ทั่วไป เขาจะมีรูปแบบของ Sitemap เป็นดังตัวอย่างข้างล่างนี้
www.yourwebsitename.com/sitemap.xml

ส่วนผู้ใช้ บล็อกเกอร์ จะไม่สามารถหาเจอแบบนั้นเลย แต่ว่า สามารถหาได้จาก Feed แทน นะครับ ซึ่ง ตัว Feed ในบล็อกเกอร์นี้ จะมีรูปแบบอยู่ 2 ชนิด ด้วยกัน คือ

www.yourblogname.blogspot.com/atom.xml?redirect=false
 
www.yourblogname.blogspot.com/feeds/posts/default?=rss

นี่แหละคร้บรูปแบบของมัน ในสมัยก่อน เราเคยพยายามทำกัน แต่รู้สึกว่า มันยากนะ ซับซ้อนมาก แต่พอมีโค้ดมาให้เราก็อปแปะ แล้วเปลี่ยนชื่อ ก็ เออน่ะ ง่ายมากๆ จริงๆ ด้วย

แผนที่เว็บไซต์ ของ บล็อกเกอร์

Sitemap มีความสำคัญอย่างไร?

เนื่องจาก Sitemap มีความจำเป็นต่อ บอท / bot ของเสิร์ชเอนจิ้น เพื่อจะไต่เข้าไปสู่เว็บไซต์ของเรา ตามแผนที่ที่เราได้ทำไว้ มันจะไต่ไปในแต่ละหน้า หรือ ทุกหน้า แล้วจะทำให้เพจนั้นๆ มี อินเด็กซ์/Index ซึ่งจะหมายถึง เวลามีคนค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นๆ แล้ว เว็บไซต์หรือบล็อกของเราก็จะ แสดงทันที นี่แหละครับ คือความสำคัญของมัน เพราะเมื่อเรามี Sitemap แล้ว และซับมิต ไปที่เสิร์ชเอ็นจิ้นแล้ว เป็นผลให้บอทไต่เข้ามาที่แต่ละหน้าหรือแต่ละบทความที่เราโพสต์ไป

และยังมีวิธีการ ในการซับมิต URL ของบล็อกหรือเว็บไซต์ เข้าสู่ Google Webmasters tool ด้วย จะช่วยทำให้ กูเกิลได้รู้จักบล็อกเราได้ง่ายยิ่งขึ้น

แล้วจะซับมิต Sitemap ของ Blogger เข้า Google Webmasters ได้อย่างไร?

สำหรับเรื่องนี้ ผมคิดว่าคงจะใช้เป็นกันหมดแล้วนะครับ เพราะคนทำบล็อก หรือ เว็บไซต์ ต้องมีการ แอดเขาสู่ Google Webmasters tool อยู่แล้ว ซึ่งเราสามารถนำเข้าสู่มันได้เป็นร้อยๆ ไซต์ครับ ลองใช้กันดูถ้าใครยังไม่ได้ทำ ยิ่งคนทำเกี่ยวกับ Google Adsense นี่ยิ่งต้องทำเลยนะครับ

ส่วนคนทำ google adsense ด้วย blogger ลองดู Template สำหรับสมัคร Google Adsense ด้วยนะครับ

วันนี้ คงได้นำมาคุยกันเท่านี้ครับ ยังไงก็ลองทดสอบ การหา URL ของ Blogger / Blogspot ของตัวเองดูนะครับ จะได้รู้ว่ามีไหมหนอ...? แล้วเราจะได้มีรอยยิ้มบนใบหน้า โดยถ้วนทั่วกัน : D

ฺBlogger Templates สำหรับสมัคร Google Adsense

Blogger Templates สำหรับสมัคร Google Adsense

วันนี้ วันพระใหญ่ มาฆบูชา หรือ วันจาตุรงคสันนิบาต ผมไม่ได้ไปเวียนเทียน เลยมานั่นทำโน่นทำนี่ คิดถึง http://blogsetthi.blogspot.com   และคิดถึงเพื่อนๆ ที่ สมัคร Google Adsense ไม่ผ่านสักที จึงแนะนำ  นี่เลยครับ Blogger Templates สำหรับสมัคร Google Adsense เพราะดูได้จากทั้งด้าน SEO และ รูปแบบบล็อก ตลอดจนถึงองค์ประกอบของบล็อก ผมว่า ใช้ตัวนี้ ผ่านแน่นอน

Blogger Themes เหมาะสำหรับสมัคร Adsense
Blogger Template สมัคร Google Adsense 

ทำไมผมถึงแนะนำด้วยคำว่า Blogger Templates สำหรับสมัคร Google Adsense ?

ก็เพราะผมดูแล้ว Blogger Templates บางแบบ สวยเกินไป เอาสิ่งที่ไม่จำเป็นมาใส่รกรุงรังไปหมด บางธีม ก็เป็นแบบวาไรตี้ หรือ ฝรั่งเขาเรียกว่า "Magazine, Mag" นั่นแหละครับ มันไม่เป็นการเจาะจงเนื้อหาที่เป็น "เฉพาะทาง" เลยทำให้คนตรวจอาจจะงงหน่อย 

เหตุที่ผมกล้าแนะนำ เพราะว่า ตอนผมสมัคร แอดเซ้นส์ ก็ใช้ blogspot หรือ blogger นี่แหละครับ ใช้แบบคลีนๆ โล่งๆ สะอาดๆ และมีองค์ประกอบอื่น เช่น มีบทความพอสมควร มีเนื้อหาเฉพาะทาง มีหน้าครบ ลองหาอ่านดูเรื่อง 

และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลองค้นหาดูครับ

ในความเป็นจริงแล้ว ก็ไม่จำเป็นหรอกครับ ว่าต้องใช้ Theme นี้ แต่เป็น แนวคิด ว่าควรเป็น แบบโล่ง สะอาดตา และสำคัญก็คือเรื่องของ คีย์เวิร์ด (Keyword) และ นิช (Niche) ที่เลือกจะทำ เนื่องจาก คนใช้บล็อกเกอร์ ก็คงไม่ใช่คนที่จะ ทำใหญ่โต เหมือนคนทำเว็บนะครับ นี่เป็นแนวคิดสำคัญ

Template หรือ Theme ของบล็อกเกอร์ ตัวที่แนะนำนี้ อยู่ที่เว็บไซต์ http://semplicemente-pbt.blogspot.com/ ที่นี่เป็นตัวอย่างของของนะครับ พร้อมกันนั้น ก็มีการอธิบายเรื่องของ การปรับเปลี่ยน อะไรต่างๆ อยู่บ้าง ถ้าสนใจลองโหลดมาทำดูครับ หากไม่เข้าใจก็ถามได้เลยนะ อย่างได้เกรงใจครับ ผมยินดีมาก

ปกติของคนที่ทำเว็บไซต์ หรือ เขียนบล็อก มักจะพูดถึงรูปแบบของ ธีม หรือ เทมเพลต ว่า "Simple is super" คือ เพราะรูปแบบที่ดูง่ายๆ มันดู โล่ง สะอาด โหลดไว ทำให้มองเห็นแนวทางที่แน่นอนของบล็อกที่เขียน

อย่าลืมนะครับ ก่อนการจะสมัครให้ได้นั้น ลองเข้าไปอ่าน เรื่องที่ผมแนะนำไว้ อย่างน้อย สองเรื่องข้างบนนี้ก่อน แล้วค่อยสมัครนะครับ จะได้ไม่เสียกำลังใจ ไม่ต้องรีบร้อน ให้ทำบล็อกเดียวและทำให้ดี เสียก่อน อย่าเอาเนื้อหาจากบล็อกคนอื่นมาใส่ ถ้าให้ดี ก็ศึกษา TOS ของ แอดเซ้นส์ ให้ดีก่อนก็ดีครับ แต่ถ้าไม่อ่านก็ไม่เป็นไร ในบล็อกผมเคยเขียนย่อๆ เอาเฉพาะที่สำคัญมาลงให้แล้ว ลองหาอ่านดูครับ

Blogger Templates สำหรับสมัคร Google Adsense จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่เพื่อนๆ สามารถทดลองดูได้ครับ เพราะผมดูแล้วผ่านแน่ๆ ถ้าใครยังไม่มี Acc. ก็จัดไปเลยครับ อย่าให้เสีย ของฟรี ไม่เสียเงิน แต่สามารถทำเงินออนไลน์ให้เราได้ ก็ทำกันไป



เศรษฐียุคใหม่ ต้อง…

เศรษฐียุคใหม่ ต้อง…

วันนี้เหงาๆ หาอ่านอะไรฝรั่ง ทำให้หวนคิดถึงตัวเองที่ยังจนอยู่ เลยเจอหัวข้อนี้เลย เศรษฐียุคใหม่ ต้อง... นั่นคือ ต้องคิดและทำแบบนี้ ซึ่งคนที่เขารวยแล้ว มักจะมีอะไรที่ต่างไปจากเราพอสมควร BlogSetthi.blogspot.com เราเองก็เขียนเรื่องราวต่างๆ ทั้งประสบการณ์  และความรู้จากผู้อื่นด้วย นั่นเพราะ การทำงานเพื่อ หาเงินออนไลน์ ก็เช่นกัน ก็มีแนวคิดที่ต่างกันด้วย ลองอ่านกันดูครับ เพื่อกระตุ้นและปรับตัวเราเอง

– ให้คนอื่นทำงานให้

จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณมีรายได้ที่มากขึ้น แต่ผูกติดความสำเร็จไว้กับตัวเองเพียงคนเดียว สร้างทีมงานขึ้นมาแล้วลุยร่วมกันจะง่ายกว่า

คนจะรวยต้องคิดแบบนี้
วอเรน บัฟเฟตต์

– ทำงานน้อยแต่ได้เงินเยอะ

กฏ 80/20 ยังคงใช้ได้ดีเสมอ งานหลายอย่างบนโลกใบนี้ทำแค่ 20 แต่ได้ผลตอบแทน 80 ก็มีถมไป

– มีเวลาว่างมากมาย

เวลาเป็นสิ่งที่สูงค่ากว่าเงิน ประเด็นคือคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าการหาเงินเยอะๆ จะต้องแลกกับเวลาทำงานที่เยอะขึ้นด้วย

– มีระบบ Make Money

ถ้าคุณทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณจะรู้ทันทีว่าคุณคือหนึ่งในระบบ Make Money ยกเว้นงานที่คุณทำเป็นงานที่มีเป้าหมายที่สูงกว่าเงิน ดังนั้น ถ้าอยากรวยทั้งเงินและเวลา ก็ต้องสร้างระบบให้ได้

– อิสระอย่างเดียว

ถ้าคุณหลงรักชีวิตตัวเองได้ นั่นคือสุดยอดของการใช้ชีวิต ขอให้เพื่อนๆสู้เพื่อความสุขของตัวเองและครอบครัวเป็นหลัก แล้วก็แบ่งปันสิ่งที่มีสิ่งที่ดีคืนกลับสู่สังคม สู้ๆ

เป็นอย่างไรบ้างครับ หลังจากอ่านเรื่อง เศรษฐียุคใหม่ ต้อง... มีความเหมือนและแตกต่างไหม? ส่วนตัวผมแล้ว คิดว่า สมแล้วที่เรายังเป็นอย่างนี้ เพราะผมถูกโปรแกรมมาเป็นแบบนี้ จึงต้องปรับแนวคิดกันละครับตอนนี้ 

วิธีซื้อแทรฟฟิคเข้าเว็บด้วย Adsense Safe Traffic

วิธีซื้อแทรฟฟิคเข้าเว็บด้วย Adsense Safe Traffic

Adsense Safe Trafficการหาเงินจาก Google Adsense ที่ง่ายที่สุด คงไม่พ้น วิธีซื้อแทรฟฟิคเข้าเว็บด้วย Adsense Safe Traffic ซึ่งง่ายและทำให้ได้เงินเร็ว

มาเช็ค PA DA กันเถอะ

มาเช็ค PA DA กันเถอะ


เอาละเพื่อนๆ เรามา เช็ค PA DA กันเถอะ เพราะช่วงนี้กระแสเรื่อง การขายเว็บ ซื้อเว็บ แรงเหลือเกินนะครับ อดไม่ได้ที่จะหันมาดู blogger ของตัวเองบ้าง เพราะเวลาเขาซื้อขายเว็บไซต์ นอกจากจะดูเรื่อง backlink, traffic, pr, สถิติ และ อายุของโดเมน เป็นต้น  บางคนยังดูกระทั่ง Page Authority (PA) และ Domain Authority (DA) ด้วย 

PA DA Checker


เช็ค PA DA ที่ไหนดี


วันนี้นึกครึ้มอกครื้มใจ อยากลอง เช็ค PA DA บล็อกนี้ของตัวเองหน่อย ผมไม่คิดอะไรมากครับ หาใน google ว่า PA DA check แค่นี้แหละ คลิกเอาสองสามไซต์แรกเลย ตรงไม่ตรง ดีไม่ดีช่างมัน แต่พอดูแล้วก็เป็นที่พอใจนะครับ ผมเข้า http://www.seoreviewtools.com/website-authority-checker/ คลิกเข้าไปเลย เพราะฟรี ครับ

เราสามารถเช็คได้ ทีละหลายๆ โดเมนเลยนะครับ ง่ายด้วย แถมยังดูจาก Social Network อื่นได้ด้วย ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง ของ SEO ที่เราเองก็อยากได้คะแนนเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็น แบ็คแฮท หรือ ไวท์แฮท ก็ต้องการเหมือนกันครับ  

PA DA Checker

เช็คได้ง่ายๆ แค่ ใส่ โดเมนเนม เข้าไป แค่นี้ก็เช็คได้ละ สำหรับ blogsetthi ของเรานี้ก็นับว่า คะแนนใช้ได้ทีเดียวนะครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ได้ร่วมกันเข้ามา และส่งข้อติชมเข้ามาให้ผม จะพยายามปรับไปเรื่อยๆ ครับ อยากรู้อะไรก็หลังไมค์มา เดี๋ยวช่วยหามาให้ ผมไม่รู้ ก็ต้องหาอ่านจากฝรั่งเขาแหละครับ แปลและรีไร้ท์ มาแบ่งปันความรู้กัน แต่ขอเถอะครับ คนที่เอาบทความไป ขอ backlink ให้ด้วยนะครับ จะได้มีกำลังใจ (แฮ่ๆๆ)

รู้อะไรบ้างในการเช็ค Page Authority และ Domain Authority  

ในเว็บ seoreviewtools จะมีการอธิบายละเอียดหน่อย เขาบอกถึงคะแนนต่างๆ ดังนี้

Moz Domain Authority (on a 1 – 100 scale)
Moz Page Authority (on a 1 – 100 scale)
Google PageRank (on a 1 – 10 scale) – อันนี้ไม่อัพเดทปีสองปีละ
External equity links คือที่เว็บอื่นลิงค์มาหา URL โดเมนนั้นๆ
Website age & Specific URL Age  ประมาณการอายุเว็บ
Social Media score (จำนวนที่มีการแชร์ไปใน Google+ Twitter Facebook และ Pinterest)

ดูในเว็บนี้จะค่อนข้างละเอียดกว่าจริงๆ นะ ทำให้เรารู้ว่า บล็อกเรามีคนสนใจสักเท่าไรครับ ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นได้รับรู้ข่าวสารจากบล็อกของเราด้วย 

นอกจากเราจะได้ดู เรื่องของ PA DA แล้วเราสามารถจะใช้เว็บตัวนี้ เป็นประโยชน์ด้านอื่นได้ด้วยนะครับ เพื่อนๆ ลองเลื่อนลงไปดูข้างล่างของหน้านั้น จะเห็นว่า มีเครื่องมือ ให้เราลองเล่นหลายอย่าง บางท่านอาจจะบอกว่า แหม ... เห็นที่เว็บอื่นก็มี ผมว่าก็คงคล้ายกันนั่นแหละครับ แต่วันนี้ผมหาแบบนี้ เจอตัวนี้ ก็นำมาบอกต่อเท่านั้นเองครับ ดูตามภาพนะครับ

PA DA Checker
ภาพไม่ชัดเพราะเว็บต้นแบบเขาใช้สีอักษรจาง

นอกได้ได้เช็ค Page Authority และ Domain Authority แล้วมีอะไรน่าสนใจบ้าง

ในส่วนของ Related Posts นะครับ จะมีเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือด้าน SEO ทั้งนี้ เป็นประโยชน์ มากมีหลากหลาย ดังนี้

     What is Domain authority?
     Domain Authority & Page Authority…
     What is Link Equity?
     Backlink Tool / Links checker
     What are “Linking Root Domains”?
     What is the value of pagerank?
     What is Page authority?
     Social page authority checker
     Bulk Web page Word Count checker
     Internal Link Analyzer
     SEO Redirect checker
     How to add Google Plus Authorship to…
     Facebook Comments box count checker
     Duplicate content checker
     Bulk Pinterest Pins checker
     Google Plus Profile Engagement checker

ยังมีอีกเว็บครับ สำหรับการ เช็ค PR และ อื่นๆ อีกมากมาย คือ checkpagerank.net

ในนี้เราจะได้เช็ค และได้รู้ อีกหลากหลาย คือ

Google PageRank:
Domain Authority:
Page Authority:
Domain Validity:
Global Rank:
Alexa USA Rank:
Alexa Reach Rank:
Alexa Site Links:
External Backlinks:
Referring Domains:
EDU Backlinks:
GOV Backlinks:
PR Quality:
Domain Age:
Google Directory listed:
Yahoo! Directory listed:
DMOZ.org listed:
Domain history:

ผมเลยลองเอา blodsetthi ของเราไปเช็คด้วย ผลเป็นที่น่าพอใจอีกละ สำหรับผมนะ อิอิ
เช็ค pr

ยังไงก็ลองเข้าไปใช้เพื่อ ลองเช็ค PA DA ของเว็บหรือบล็อกตัวเอง และลองใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เขาให้มานะครับ หากท่านใดไม่ถนัดภาษาประกิต ก็สะกิดมาได้นะครับ เดี๋ยวช่วยกัน ขยับมือ แล้วบล็อกเราจะได้แข็งแรงๆ

สายดำ black hat เปลี่ยน IP เราท์เตอร์ ใครเป็นบ้าง

สายดำ black hat เปลี่ยน IP เราท์เตอร์ ใครเป็นบ้าง

เรื่องของเรื่อง คือ ช่วงนี้เห็นในบอร์ดเขาพูดถึงเรื่องประมาณนี้กันบ่อย ผมก็เลยอยากเรียนรู้บ้าง เผื่อมีประโยชน์ ใครเก่งแล้วก็มาสอนด้วยนะครับ ส่วนมือใหม่ ก็เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันนะครับ มีเยอะเลย

ฺBlack Hat for Your Earning

ใครที่อยากจะหาดูวีดีโอประมาณนี้ ผมใช้คีย์ "Change ip"  แล้วค่อยเลือกดูว่าอันไหนน่าสนใจ อย่าลืม
-อ่านคอมเม้นท์ด้วย เผื่อเขาด่ากัน หรือ อวย จะได้รู้
-ดูที่มาที่ไป ว่าเพื่อการค้าหรือเพื่อความรู้
-อื่นๆ แล้วแต่ประสบการณ์ครับ

วีดีโอตัวอย่าง



ลองหาดูนะครับ จะมีประโยชน์มากๆๆๆๆ ถ้าเรานำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ผมไม่เก่งเรื่องพวกนี้ เพราะผมจบการ "การศึกษา" ไม่ใช่ด้านไอทีครับ 



ทำอย่างไร ให้มีคนติดตามแฟนเพจ

ทำอย่างไร ให้มีคนติดตามแฟนเพจ

สวัสดีครับ เพื่อนๆ  blogsetthi ไม่ได้อัพเดทนานทีเดียว ไม่ได้หายไปไหนครับ แต่มัวไปหลงระเริงสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสารอยู่ วันนี้ เหงาๆ เลยคิดว่า บางที บางท่านอาจจะคิดเหมือนผมนะ คือ อยากมีคนติดตามแฟนเพจเยอะๆ เลยมานั่งดูของฝรั่งเขาหน่อย ขอเอาแบบง่ายๆ ก่อนหนึ่งโพสต์ครับ แบบเบสิคก่อน

How to Promote Facebook

การทำเฟซบุคให้ดัง เพื่ออะไร?

การทำเฟซบุคให้ดัง เพื่อประโยชน์หลายด้านครับ เช่น
-การสร้างเชื่อเสียง
-เอาไว้โปรโมทสินค้า (หาเงิน)
-เผยแพร่ความรู้ หรือ สิ่งที่ต้องการ
-ทำไว้ขายต่อ

พื้นฐานของการทำเฟซบุคให้ดัง มีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. อยู่กับเฟซบุ๊คเสมอ

ทุกวันนี้คงไม่มีคนทำเว็บคนใด ที่ไม่มีการใส่ใจในเรื่องของโซเชียลมิเดีย นะครับ โดยเฉพาะวันนี้เราพูดถึง เฟซบุ๊ค ดังนั้น สร้างความมีอยู่ของตัวตนของตนเองโดย "โพสต์ทุกวัน" คุณจะโพสต์สักกี่ครั้งต่อวันก็ตาม เอาที่สบายใจก็แล้วกัน แต่ว่าถ้าให้ดี ก็ต้องทำให้เป็นประจำ และทำให้เป็นปกติ นะครับดีที่สุด

2. มีการตอบสนองผู้มาคอมเม้นท์ หรือ ตอบผู้ติดตามอยู่เสมอ

มีเพจจำนวนไม่น้อย ที่มักจำไม่ตอบอะไรแก่ผู้เข้ามาคอมเม้นท์ ในเพจตัวเอง นั่นเป็นการกระทำที่ไม่ดีเอาเสียเลยนะครับ ในความเป็นจริงแล้ว การตอบสนอง เหล่านั้น จะทำให้ผู้ติดตาม รู้สึกถึงการมีส่วนร่วมกับเพจของคุณอยู่เสมอๆ นะครับ

3. ให้รางวัล แก่ผู้อ่าน/ผู้ติดตาม

ลองเข้าไปดูที่ Feature of the month ดูนะครับ นั่นแหละ เป็นวิธีการให้รางวัลที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย นอกจากเวลากะติ้ดเดียวเอง เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้ผู้อ่านหรือผู้ติดตาม มีกำลังใจที่จะติดตามตลอด
ข้อนี้ สังเกตเห็น หลายเพจปรับใช้แบบต่อยอดไปอีก เช่น 

==> มีเงื่อนไข กดไลค์ แชร์ ก่อนแล้วจะสุ่มหาผู้โชคดี
-เพจ อิชิตัน มีการแจกรถ เครื่องครัว เงิน ฯลฯ
-บางเพจ แจกแหวน โดยการให้ทายหมายเลยในธนบัตร
-บางเพจ แจกพระเครื่อง 
-บางเพจ แจกโทรศัพท์มือถือ
-บางเพจ เอาภาพที่ให้โชคมาลง
ฯลฯ

4. ระดมสรรพกำลัง โชเชียลมิเดียอื่นๆ เข้าช่วย

แน่นอนอยู่แล้วครับ ที่คนทำเว็บต้องทำ คือ ทวีตเตอร์ Thublr Line และอื่นๆ เข้ามาช่วย โดยการโปรโมท Facebook ของตัวเองซะเลย

5. ใช้ Facebook social plugin ไปติดไว้ที่เว็บไซต์

คนทำเว็บไซต์ลืมไม่ได้เลยเรื่องนี้ เพราะการใช้ Facebook social plugin ไปติดเว็บ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือบล็อก อยากจะติดต่อสื่อสารด้วย ซึ่งก็จะมี Like มีอะไรที่ให้ประโยชน์หลายประการ

6. กระตุ้นผู้ติดตามหรือผู้อ่าน ให้กดไลค์ กดแชร์ ด้วย

ไม่ว่าเราจะหาเงินด้วยวิธีใด สิ่งที่ไม่ควรลืม คือการกระตุ้นให้เขาทำตาม สังเกตได้ว่า ถ้าคนทำตามข้อ 3 ข้างบน เขาจะมีการกระตุ้นว่า ให้กดไลค์ และแชร์ หรือ บางคนก็มักบอกว่า ถ้าใครไม่เม้นท์ไม่แชร์ ขอให้แฟนทิ้ง ประมาณนี้ มุกนี้ใช้ได้ตลอดครับ

7. ขอแรงเพื่อนๆ

เพื่อน เป็นกลุ่มคนที่ลืมไม่ได้เลยครับ เพราะในการเปิดแรกๆ นี่ต้องของแรงให้เข้ามาป้วนเปี้ยนกันหน่อย เนื่องจากการเปิดใหม่ๆ นั้น ยากแก่การโปรโมทอย่างยิ่ง เว้นแต่คนมีเงินจะอาศัยจ้างเฟซบุ๊ค โปรโมทให้ แต่ก็เห็นเพื่อนๆ หลายคนบ่นว่า ไม่ได้ผลเหมือนกันนะ เพราะไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ครับ

8. กลยุทธ์ Tag และ กล่าวขอบคุณ

กลยุทธ์นี้ ถ้าคนรู้จักกันบ้างแล้ว จะไม่เป็นไร แต่ถ้าคนไม่สนิทกันจริงๆ ก็อย่าทำครับ ผมเห็นบางคนเขาก็บ่นออกมาหน้าเฟซดังๆ บ่อยๆ เหมือนกันว่า "เพื่อนๆ ที่ไม่สนิทกันอย่าแท็กมา" 
การแท็กนั้นก็ช่วยเราอีกแรงหนึ่ง ที่จะกระจายข่าวออกไป เพราะแน่นอนว่า เพื่อนของเพื่อน ย่อมเห็นเพจของเรา ด้วย

9. จัดการสร้าง Event ไว้ด้วย

การสร้างหน้า Event ต่างๆ ไว้ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่ช่วยให้เพื่อนที่ติดตามเรา ได้เห็น ไม่ลืมว่ามีเพจเราเป็นเพื่อนด้วย เอาเป็นสิ่งดีๆ สนุกๆ เข้าไว้ จะได้ไม่รังเกียจกัน

ครับ วันนี้ บล็อกเศรษฐี เราพูดถึง วิธีการ ทำให้เฟซบุ๊คเราดัง เอาแบบ เบสิคๆ ไว้ก่อนนะ ง่ายๆ จะได้ตัดสินใจได้ง่าย ในความเป็นจริงแล้ว หลักการย่อยๆ ก็มีอีกเยอะครับ ยากขึ้นไปอีกหน่อย หากใครคิดจะทำเพจให้ดัง แล้วขายต่อ หรือ เป็นตัวช่วยในการส่งแทรฟฟิคไป เว็บไซต์ ที่ติด adsense ก็ได้ นับว่าเป็นอีกแนวทางหนึ่งนะ ที่สร้างราคาได้ง่ายพอสมควร เพราะ หากเพจหนึ่งดัง และมีผู้อ่านผู้ติดตามเยอะแล้ว ก็สามารถแนะนำเพจใหม่ของเราต่อเลย หรือ หาเงินอีกแบบคือ การรับโพสต์โฆษณา ไม่ต้องแพงครับ ครั้งละ 10 - 15 บาทก็สบายแล้ว