วิธีการเพิ่มค่าคลิก Adsense
สวัสดีงามๆ ครับ วันนี้ blogsetthi อยากจะเอาใจเหล่า สาวก Adsense กันอีกครับ หากท่านใดที่มีรายได้หลักมาจากการติดแบนเนอร์นี้เห็นหลัก คงปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมครับว่า สิ่งที่เราอยากได้มากๆ คือ มี eCPM สูงๆ แล้วก็มีค่าคลิกแพงๆ CPC (Cost Per Click ราคาต่อคลิก) และอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ค่า CTR นั่นเอง นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่คนเป็น publisher แต่ปัญหาของเพื่อนๆ จำนวนไม่น้อยคือเรา ทำเว็บ หรือ ทำบล็อกภาษาไทย อันเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า เรตต่ำ เตี้ยติดดิน เสียนี่กระไร แต่ไม่ต้องห่วงครับ อันดับแรกสุด คือ ขอให้มี แทรฟฟิค เยอะๆ ไว้ก่อน เพื่อการปรับเปลี่ยนอะไรต่างๆ ให้เราได้ค่า CPC ของ Adsense ได้เยอะขึ้นและแน่นอนที่สุดเลยคือ รายได้จากการ ติดแอดเซ้นส์ เพิ่มมากขึ้นด้วย
ป้จจัยที่มีผลต่อ ค่าคลิก Adsense ได้แก่
1. Niche Keyword
Niche Keyword เป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อย เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่คนทำเว็บปัจจุบันคำนึงถึง เพราะเป็น คีย์เวิร์ด ที่เจาะจงหน่อย ทำให้มีคู่แข่งน้อยลงไปบ้าง : ) ซึ่ง ค่าคลิก หรือ CPC จะได้มากหรือน้อย ตัวนี้เป็นหลักก่อน เพราะจะเป็น ธีม สำคัญของบล็อก หรือ เว็บ เราที่จะเขียนให้อยู่ในคอนเซ็ปต์อยู่ตลอด หากสามารถเลือก Niche ที่มีราคาแพง คู่แข่งน้อย คู่แข่งไม่แรง ก็มีโอกาสขึ้นหน้าหนึ่ง และคนเข้าเยอะ นั่นแหละ ค่าคลิก ก็จะยิ้มได้
2. เนื้อหาสดใหม่ ไม่ซ้ำใคร หรือ Unique Content
เนื้อหา หรือ บทความ ในบล็อกเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย เพราะหากสามารถตอบคำถาม หรือ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้อ่านได้ เขาก็จะเข้ามาเสมอ รวมทั้งหาเป็นเนื้อหาดี เขาก็จะแชร์ไปให้กว้างอีกด้วยนะครับ ทางที่ดี ควรจะมีการ วิจัยคีย์เวิร์ด ก่อนการเขียนบล็อก ทั้งนี้เพื่อจะได้นำมาเขียนให้ตอบสนองผู้อ่านได้ตรงจุดนั่นเอง
แต่อย่าลืมคอนเซ็ปต์หลัก หรือ นิชคีย์เวิร์ด ของเรานะครับ ต้องนำเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ Niche ของเราที่ต้องกับความต้องการรู้ของผู้อ่านมาเขียน เมื่อมัน ป๊ะ กันแล้วนี่นอนว่า คนก็จะมาอ่านมากขึ้น แล้ว ค่าคลิก ก็จะได้ในราคาที่แพงตามไปด้วย เนื้อหาดี บทความดี กูเกิ้ลของเราบล็อกเราอยู่แล้วครับ ตอนนี้ นิชดี เนื้อหาดี คนเข้าเยอะ โอกาสคลิกก็มากตามด้วย
3. บล็อกโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้อง และราคาถูก
ต้องหัดเช็คดูค่าคลิกใจบล็อกของตัวเอง เพื่อดูว่า ค่าคลิก เป็นอย่างไรบ้าง อาจจะเข้าไปดูที่ Ad Review Center แล้วเช็คดี กลุ่มไหน ค่าคลิกถูก โฆษณาการกุศล หรือ โฆษณาไม่เกี่ยวกับ Niche หรือเนื้อหา ก็จัดการบล็อคเสียเลย ทำไมต้องบล็อกหรือ? ก็เพราะคนที่เข้ามาอ่านเรื่องนั้นๆ ถ้าโฆษณาไม่ตรงเนื้อหา หรือ นิช ก็อยู่นอกความสนใจของผู้อ่าน แล้วคุณคิดว่าผู้อ่านจะ คลิกโฆษณา นั้นๆหรือ? หากจัดการแบบนี้แล้ว รับรองว่าจะมีรายได้ เพิ่มมากขึ้นแน่นอน
4. จัดการกรอง โฆษณาเว็บคู่แข่ง
ก็เป็นลักษณะเดียวกับข้อ 3 นั่นแหละครับ แต่คราวนี้ ถ้าบังเอิญว่า มีบางเว็บ หรือ บางโดเมน ที่แหม...เป็นคู่แข่งเราเสียด้วย ไม่อยากโดนแย่งแทรฟฟิคแบบง่ายๆ ขนาดนี้นะ อย่างนี้ก็ต้อง จัดการบล็อกไปเลย ทั้งนี้เพราะ หากผู้อ่านยังอยู่กับเรา เขาก็อาจจะคลิกไปเว็บอื่นๆ แล้วก็กลับมาอ่านของเราอีกและอาจจะคลิกโฆษณาอื่นๆ ใหม่อีกก็ได้ แต่ถ้าเขาคลิกไปเว็บคู่แข่งแล้ว มีความเป็นไปได้ว่าไปแล้วไปเลย เสียของเบย! (= เลย แอ๊บเด็กหน่อย)
5. แฟลตฟอร์ม หรือ รูปแบบของอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าเว็บ/บล็อก
ในปัจจุบันนี้ การเข้าถึงเว็บไซต์ หรือ บล็อกต่างๆ มีหลากหลายมากยิ่งขึ้น หากเว็บไซต์/บล็อก ไม่ต้องสนองความต้องการผู้ใช้ ก็คงเสียโอกาสที่จะมีคนเข้าไปแบบง่ายๆ เพราะส่วนใหญ่จะใช้โทรศัพท์กันแล้ว ดังนั้น ตอนนี้คนทำบล็อกจาก blogspot.com จะไม่มีปัญหาเรื่องนี้เลย แต่คนที่ทำเว็บโดยสคริปต์ต่างๆ ต้องดูกันหน่อยละ ต้องหาธีมที่ Responsive ต่ออุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ด้วย สำหรับคนที่ใช้ WordPress.org ก็สามารถหาปลั๊กอินเพิ่มได้ เช่น Wp touch ซึ่งจะทำให้ทาง adsense สามารถส่ง แบนเนอร์ โฆษณาที่มีขนาดเหมาะสมกับหน้าจอ โทรศัพท์แบบนั้นๆ ได้ดียิ่งขึ้น6. ประเทศเป้าหมาย
นี่เป็นโจทย์ ที่คลาสสิคมากๆ นั่นเป็นเหตุหนึ่งที่ เพื่อนๆ จำนวนไม่น้อยหันไปทำบล็อกที่เป็นภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เพราะค่าคลิกต่างจากไทย ราวฟ้ากับเหว เอาว่า โฆษณาเดียวกันนี้ ถ้าคลิกจาก อเมริกา ราคา 2-5 เหรียญ แต่ทางบ้านเราคลิก ก็แค่ 10-20 เซ็นต์ ประมาณนั้น
ในเรื่องนี้ ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันคือ ภาษาไทย คู่แข่งน้อย ทำเองได้ง่าย ภาษาอังกฤษ คู่แข่งเยอะ อาจจะต้องจ้างเขาเขียนบทความให้ด้วย ฯลฯ แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็จัดภาษาอังกฤษเลยครับ เอากลุ่มเป้าหมายเป็น อเมริกา และยุโรป เจ๋งดี
7. ทำไมค่าคลิก Adsense ถูก?
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามคลาสสิก ที่มีการถามถึงกันตลอด และผู้ตอบก็ตอบกันไปตามที่ตนเองประสบมา แน่นอนว่า มันได้ไม่เท่ากัน เพราะแล้วแต่ CTR (click through rate) และ CPC (Cost Per Click). ดังนั้น ขึ้นอยู่กับ รูปแบบของแบนเนอร์ ว่าเป็น Text หรือ ภาพ หรือทั้งสองอย่าง และที่สำคัญคือ Niche หรือ Keyword ของคุณที่ทำอยู่ รวมไปถึงการวาง แบนเนอร์ ว่าเหมาะเจาะ ดึงดูดให้คลิกแค่ไหน ด้วย
8. การวางแบนเนอร์
หลักการแบบหนึ่งของการวาง แบนเนอร์ ของ Adsense เพื่อให้ค่า CPC ราคาแพง คือ เอาสัก 3 ที่ก็พอ โดยที่วางไว้ใน โพสต์เสีย 2 และข้างนอกเสีย 1 แค่นี้ก็แจ่มละ ที่เรามักจะเห็นกันจนชินตาคือ ขนาด 336 X 280 วางไว้ที่ใต้หัวข้อ หรือ Title ของบทความ และ ขนาด 468 X 60 ไว้ที่ระหว่างบล็อกโพสต์ด้วย และอีกอันหนึ่ง เราก็วางที่ ไซด์บาร์ แค่นี้ก็ครบสูตรละ ส่วนวิธีการเลือกสี หรือ เลือกรูปแบบผมได้เขียนไว้แล้ว ลองหาดู และปรับของตัวเองดูครับ
9. สถานที่บางแบนเนอร์ และที่ที่มีคนคลิกมาก
ปกติเราจะเห็น Heatmap ที่แสดงให้เห็นว่า คนส่วนใหญ่เขาจะคลิกที่ใต้หัวข้อ และ มุมซ้ายของเว็บหรือบล็อก นั่นเป็นสิ่งที่เขาได้รวบรวมไว้ให้เป็นไกด์นำทาง เผื่อคนต้องการจะทำตาม แต่กรณีที่อยากจะพลิกแพลง ก็ทำได้และอาจจะได้เงินมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำไป ลองดูตัวอย่างเว็บให้โหลดซอฟต์แวร์ทั้งหลายสิครับ เขาไม่ได้วางตามที่ Heatmap บอกไว้เลย ผมถึงบอกว่า มันขึ้นอยู่กับรูปแบบบล็อก และ Niche ของคุณเอง ต้องลองและเก็บสถิติดูครับ แล้วจะรู้เอง ได้เงินเอง10. เก็บสถิติและทดลองเสมอๆ
เพราะสิ่งเหล่านี้มันไม่มีสูตรตายตัวหรอกครับ หากคุณก้าวเข้ามาสู่อาชีพ บล็อกเกอร์ และหาเงินด้านนี้ ก็ต้องมีการทดสอบ ทดลอง วางตรงนั้นตรงนี้ไปเรื่อยๆ ครั้งละ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลที่แท้จริง หากวางตรงไหน มีคนคลิกมาก ก็ปล่อยทิ้งไว้เลย นานๆ ไป ก็เปลี่ยนและปรับไปเรื่อยๆ เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด แต่ก็ลองอ่านคำแนะนำจาก Google Adsense Center บ้างแล้วจะได้แนวคิดเพิ่มอีกครับ
โดยสรุปวิธีการเพิ่มค่าคลิก Adsense
เมื่อคุณอ่านเรื่อง วิธีการเพิ่มค่าคลิก Adsense มาถึงตรงนี้ นั่นก็แสดงว่าคุณมาความสนใจในเรื่องนี้มาก เพราะมันยาวแต่คุณก็อ่านจนจบ และผมว่า หากทำตามนี้ทั้ง 10 ข้อ ก็จะได้เงินเพิ่มขึ้นอีก อย่างน้อยก็ 30-40% แน่นอนละครับ และอย่าลืม อัพบทความเพิ่ม เน้นคีย์เวิร์ด และหาคีย์เวิร์ดราคาแพงๆ มาเขียนไว้ด้วย เพื่อเพิ่มโอกาส แค่นี้ การหาเงินแบบ Passive Income ก็อยู่แค่เอื้อมแล้วครับ ขอให้รวยๆๆๆ
