ความผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์ สามารถประยุกต์กับบล็อกเกอร์ได้

ความผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์ สามารถประยุกต์กับบล็อกเกอร์ได้


การนำเอาเรื่อง "ความผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์" มาเสนอนี้ ก็เพื่อเป็นการย้ำเตือนไว้ล่วงหน้าสำหรับมือใหม่ เพราะมีผู้ที่ทำงานด้าน IM หรือ Internet Marketers จำนวนมากมักจะปล่อยให้เกิดความผิดพลาดเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่ได้อ่านคำเตือนนี้ ซึ่งบางส่วนเราก็สามารถใช้ได้กับคนทำบล็อกอย่างบล็อกเกอร์ตัวนี้
ข้อผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์

ความผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์ ที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น ได้แก่อะไรบ้าง?

ตามรายการที่ผมได้นำมาแสดงข้างล่างนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งใจเข้ามาทำงานแบบนี้ ผมเองก็พลาดเหมือนกัน :)  สิ่งที่ต้องระวังมีดังนี้ 

1 ทำเว็บไปตามแฟชั่น โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้
2 ไม่มีการวางแผนที่ดีพอ
3 ประเมินการในการทำต่ำเกินไป
4 ไม่สร้างเว็บไซต์ให้เอื้อต่อเสิร์ชเอ็นจิ้น (ไม่เป็นแบบ search engine friendly) ตอนนี้ต้องเพิ่ม Mobile Friendly ด้วยนะครับ
5 เขียนเรื่องที่ตนเองอยากเขียน แทนที่จะเขียน "เรื่องที่ผู้อ่านอยากอ่าน" หรือ "เรื่องที่ผู้อ่านอยากรู้"
6 ไม่มีการอัพเดทข้อมูลในเว็บไซต์ (ปล่อยให้เป็นเว็บร้าง)
7 รอให้คนอื่นส่งแทรฟฟิคมาให้ ไม่รู้จักหาแทรฟฟิคเข้าเว็บ 
8 ไม่ใช้ สถิติ และ เรียนรู้จากตัวเลขที่ได้ 
9 ไม่ยอมรับความจริง เมื่อสิ่งที่ทำนั้นไม่เวิร์ค เข้าทำนอง รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
10 ไม่ใส่ opt-in ในเว็บไซต์ เพื่อเก็บ อีเมล (จะได้เอาไว้กินยาวๆ ให้ไปอ่านเรื่อง Email Marketing)
11 ทำทุกอย่างด้วยตนเองเมื่อมีเว็บมากกว่า 10 เว็บ ซึ่งไม่สามารถทำให้ดีได้หรอก
12 ไม่มีการทำการรีเสิร์ชหรือวิจัยคีย์เวิร์ดและนิชคีย์เวิร์ดให้ดีพอ
13 สร้างเว็บไซต์แล้วมุ่งแต่จะทำ SEO ลูกเดียว แทนที่จะทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น หาแทรฟฟิค เนื้อหาดี
14 ใส่เนื้อหามากจนเกินไปในหนึ่งหน้า (โดยทั่วไปต้องทำให้สามารถอ่านจบได้ภายใน 5-7 นาที)
15 ใช้เนื้อหา หรือ บทความที่เป็น PLR เพราะเห็นว่า ง่ายดี
16 ใส่ลิงค์ มากเกินไป
17 สร้างเนวิเกชั่นยากเกินไป คนเข้ามาเจอแบบนี้ก็คลิกปิดไปเลย
18 เข้าร่วม affiliate แล้วนำมาติดเว็บมากเกินไป ทำให้รบกวนผู้เข้าเว็บไซต์
19 ตั้งความหวังไว้กับเว็บเพียงแนวเดียว (คือ มีกี่เว็บ ก็เรื่องคล้ายกันหมด เช่น ความสวยความงาม ทุกเว็บ)
20 ซับมิตเว็บไซต์เข้า Free For All directories ได้แต่ลิงค์ที่ไร้คุณภาพ
22 ไม่เช็คดูลิงค์ในเว็บตัวเองก่อน
23 เลือกทำคีย์เวิร์ดที่มีคู่แข่งมากเกินไป
24 โพสต์โฆษณาในเว็บฟอรั่ม
25 มุ่งแต่โปรโมทในฟอรั่มหรือบล็อก คนเขาไม่ชอบกันนะ
26 ใช้โฮสต์ฟรีและอีเมล์ฟรี ทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพ
27 วาง affiliate links ไว้ที่หน้าแรก (ควรวางหน้าอื่นเพื่อให้เขาคลิกเข้าไปเจอดีกว่า)
28 มัวแต่ทดลองทำมากเกินไป แทนที่จะลงทุนเพื่อซื้อเครื่องมือ หรือ tools ที่มืออาชีพเขาใช้กันบ้าง
29 ขายสินค้าที่ไม่ตรงกับความต้องการ และขายผิดที่ผิดทาง
30 ส่งแทรฟฟิคผิดเข้าเว็บไซต์
31 ใช้เงินซื้อแทรฟฟิคกลุ่ม จากผู้รับส่งแทรฟฟิค

ขออธิบายเพิ่มเติมบางข้อ เผื่อมือใหม่ยังไม่เข้าใจ นะครับ


3 ประเมินการในการทำต่ำเกินไป เพราะคิดว่า เมื่อสามารถทำเป็นเว็บไซต์ไปแล้ว เดี๋ยวก็ดีเองเหมือนกับเว็บใหญ่ๆ ทั้งหลาย และ/หรือ ถ้าทำเว็บขายของ ก็นึกว่า เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาอ่านและซื้อเอง ผิดมหันต์เลยครับ

7 รอให้คนอื่นส่งแทรฟฟิคมาให้ ไม่รู้จักหาแทรฟฟิคเข้าเว็บ การหาก็เช่น การไปติดแบนเนอร์ที่เว็บคนอื่น การซับมิตบทความ การ add url ที่เสิร์ชเอ็นจิ้นทั้งหลาย การแลกลิงค์ เป็นต้น 

8 ไม่ใช้ สถิติ และ เรียนรู้จากตัวเลขที่ได้ คือ ตัวนับสถิติที่ติดอยู่ ก็ต้องนำมาวิเคราะห์ ว่า คนเข้ามาจากไหน เข้ามาแล้วคลิกให้สักเท่าไร เข้ามาแล้วอ่านนานไหม เฉลี่ยกี่หน้า คนเข้ามาด้วยคีย์เวิร์ดแบบไหน เป็นต้น

10 ไม่ใส่ opt-in ในเว็บไซต์ เพื่อเก็บ อีเมล (จะได้เอาไว้กินยาวๆ ให้ไปอ่านเรื่อง Email Marketing) ตามภาพที่แสดงไว้ เพราะเก็บไว้เพื่อส่งข่าวสาร เสนอการขาย และการติดต่อไปยังเจ้าของอีเมลนั้นๆ

11 ทำทุกอย่างด้วยตนเองเมื่อมีเว็บมากกว่า 10 เว็บ ซึ่งไม่สามารถทำให้ดีได้หรอก เพราะเมื่อมีเว็บไซต์มากขึ้น ก็จะต้องหาวัตถุดิบหรือเรื่องที่จะเขียนมากขึ้น มันยากและใช้เวลา การแก้ไขก็คือ จ้างคนทำงานให้ เช่น จ้างเขียนบทความหรือเนื้อหา จ้างคนโปรโมทเว็บให้ หรือ แม้แต่จ้างคนมาเขียนรีวิวสินค้าให้ เป็นต้น 

12 ไม่มีการทำการรีเสิร์ชหรือวิจัยคีย์เวิร์ดและนิชคีย์เวิร์ดให้ดีพอ คือ การหาคำค้นที่เหมาะสมกับตลาดที่ตนต้องการ เพราะจะทำให้มีโอกาสที่คนค้นเจอเว็บตัวเองเยอะขึ้น ไม่มีคู่แข่งมากเกินไป คนค้นหามากพอสมควร คู่แข่งไม่แข็งมากเกินไป บางคนอาจจะสงสัยว่า แล้วคีย์เวิร์ดเอามาทำอะไร? 

คำตอบคือ เราจะนำมาเป็นคำหลักที่จะเขียนในเว็บหรือบล็อกเรา ซึ่งถ้าให้แจ่มก็ต้อง นำมาเป็นชื่อโดเมนเนม (ชื่อเว็บไซต์/บล็อก) เช่นบล็อกผมอันนี้ มีคำว่า "Blog" กับ "Setthi" คำแรกคนเข้าใจได้ง่าย ส่วนคำที่สองเป็นการสร้างแบรนด์ขึ้นเอง โดยมีคำอธิบายว่า รวยด้วยบล็อก ถ้าท่านค้นคำไทยว่า "บล็อกเศรษฐี" ชื่อของบล็อกนี้ของผมก็จะมีโอกาสขึ้นหน้าแรกเยอะอยู่ ลองค้นใน google ดูสิ ถึงไม่เป็นอันดับหนึ่ง แต่ก็ได้อยู่หน้าหนึ่งละครับ

นิชคีย์เวิร์ด (Niche Keyword) คือคำที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงหน่อย คีย์แบบนี้ ส่วนมากทำให้มีคู่แข่งในคีย์ลดลง เช่นผมเห็นเว็บหนึ่ง คีย์เวิร์ดคือ "Galapagos Tour" แต่เขาเล่น นิชคีย์เวิร์ด ว่า "Galapagos Tours Guide" จึงคำเหล่านี้บรรจุอยู่ในโดเมนเนม ดูแล้วเป็นเรื่องเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวในหมู่เกาะ กาลาปากอส ในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และสถานที่ รวมถึงที่พัก เป็นต้น โดยมีชื่อเว็บว่า www.galapagostoursguide.com จะเห็นว่ายาวไปหน่อย แต่ก็เจาะจงดี 

13 สร้างเว็บไซต์แล้วมุ่งแต่จะทำ SEO ลูกเดียว แทนที่จะทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น หาแทรฟฟิค เนื้อหาดี

15 ใช้เนื้อหา หรือ บทความที่เป็น PLR เพราะเห็นว่า ง่ายดี  PLR content เป็นบทความหรือเนื้อหาที่เขาเขียนรวมเป็นแพ็คเก็จ สิบหรือยี่สิบเรื่องต่อหนึ่งแพ็คเก็จ คนที่ซื้อไปหรือได้ไปก็เอาไปสปิน แล้วโพสต์ ซึ่งคนอื่นที่ได้ไปก็จะทำแบบเดียวกัน จึงทำให้เนื้อหา หรือ ข้อความมีโอกาสซ้ำกันเยอะ พอซ้ำกัน google ก็จะมองว่า ไม่ Unique ก็เป็นผลเสียต่อเว็บอีก ถ้าอยากทำ ให้ทำการรีไรท์เอาดีกว่า กล่าวคือ ให้อ่านเอาแต่ใจความของเขา แล้วนำมาเขียนด้วยถ้อยคำของเราเอง 

16 ใส่ลิงค์ มากเกินไป เล่นหน้าหนึ่ง เป็นร้อยๆ ลิงค์ก็ดูไม่งามครับ ทั่วไปงามๆ สัก 2-3 ลิงค์ แต่ก็น่าจะมากได้ไม่ควรเกิน 10 ลิงค์นะดูดี ลิงค์ออกพยายามมีให้น้อยที่สุด

20 ซับมิตเว็บไซต์เข้า Free For All directories ได้แต่ลิงค์ที่ไร้คุณภาพ ซึ่งคนทำเว็บต่างก็รู้ว่า google ไม่ชอบการได้รับลิงค์ไม่เป็นธรรมชาติ เพราะการทำแบบนี้ ได้ที่เป็นร้อยๆ ลิงค์ แถมยังอาจจะเป็นเว็บ pr ต่ำ หรือไม่ก็ลิงค์จากเว็บที่ต่างหมวดหมู่กับเรา เป็นต้น จะเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนะครับ

ขออธิบายเพิ่มเรื่องความผิดพลาด เพียงเท่านี้นะครับ ข้ออื่นๆ ที่เว็บไว้ก็อ่านเข้าใจละ ใครที่ไม่เข้าใจก็สามารถจะคอมเม้นท์สอบถามไว้ได้นะครับ

ลิสต์รายการ ความผิดพลาดของคนทำเว็บไซต์ สามารถประยุกต์กับบล็อกเกอร์ได้ ที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น ทั้ง 31 ข้อนี้ เป็นสิ่งที่ผู้ซึ่งประสบความสำเร็จจากการทำงานด้านนี้ มาเป็นเวลานานและประสบผลสำเร็จแล้ว ได้ดำเนินการมา และประสบผลสำเร็จแล้ว จึงนำมาเพื่อบอกต่อ นัก IM บ้านเราก็จะได้นำมาเช็คตัวเองว่า ทำตามข้อไหนบ้าง จะได้แก้ไขให้ถูกต้องกัน