SEO TIPs แนวทางการทำให้บล็อกของคุณมีอันดับอยู่ในหน้าแรกของ Google

SEO เป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการทำบล็อกและเว็บไซต์ มาดูเทคนิคที่จะทำให้เว็บของคุณอินเด็กซ์ไว และแรง ที่สำคัญกูเกิ้ลรัก นะถ้าทำตามนี้

การหาเงินจาก YouTube

การหาเงินจาก YouTube เป็นเรื่องที่คนคิดไม่ถึง เพราะง่าย และไม่ต้องลงทุน

การเพิ่มค่าคลิกให้ Adsense

การหาเงินด้วยการติดแบนเนอร์ Adsense อย่างถูกต้อง ย่อมได้ค่าคลิกแพงเสมอ

การทำ Sitecmap Blogger ง่ายสุดๆ

การทำ Sitecmap Blogger ง่ายๆ ใช้เวลาแค่ ไม่ถึง 1 นาทีก็เสร็จ

บล็อกเกอร์สร้างเงินให้คุณได้จริงหรือ? 2

Blogger บล็อกเกอร์ นอกจากจะฟรี แล้วยัง ทำเงิน หรือ สร้างรายได้ให้คนได้เงินแล้ว เราจึงนำข่าวมาบอก ดีกว่าการทำแค่ไปเปิดเน็ตดูหน้านอไปเรื่อยเปื่อย อ่านที่นี่แล้วจะรู้

วิธีเขียนบทความ ที่ถูกต้อง

การเขียนบทความ หรือ เนื้อหา สำหรับบล็อกที่ถูกต้อง และได้ผล ย่อมทำให้ seo มีผลเป็นอย่างดี

Blogger Templates เพื่อใช้สมัคร บัญชี Google Adsense

Template หรือ Theme สำหรับการใช้เขียนบล็อก เพื่อใช้ สมัคร Google Adsense อย่าพลาด!!!!!

สอนสร้าง blogger4 : วิธีเขียนบทความ

สอนสร้าง blogger4 : วิธีเขียนบทความ


จากที่ผมได้เกริ่นไปคราวก่อนว่า เมื่อรู้ว่าจะเขียนบทความแล้วโพสต์อย่างไร อย่างละเอียดมาแล้ว เพื่อให้การเขียนบทความให้ได้ผลดี ผมก็อยากจะเบรคเรื่องการปรับแต่ง บล็อกเกอร์ เอาไว้สักระยะ แล้วมาแทรกเรื่อง วิธีการเขียนบทความ เสียก่อน แล้วค่อย กลับไปสอนการปรับแต่งบล็อกในภายหลัง เพราะมันมีสำคัญมากเกี่ยวกับ การเขียนบทความที่ดี ที่จะช่วยดันให้บทความของเราแต่ละโพสต์ แรง คือ อินเด็กซ์ไว และ อยู่หน้าหนึ่งของ Google ครับ 

บทความที่ดีเป็นอย่างไร 

ผมขอนำมาบอกกล่าวแบบสั้นๆ เป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

1. เป็นบทความที่ไม่ซ้ำคนอื่น คนเขียนเว็บเรียกว่า Unique Content กล่าวคือ ข้อความต้องไม่ซ้ำกับเว็บอื่นๆ กล่าวคือ หากเนื้อความ หรือเนื้อหาของบทความไปซ้ำของคนอื่นได้  เช่น 
--เว็บอื่นเขียนว่า "การเขียนบล็อกที่ดีนั้น จะต้องมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน..." 
--เราก็อาจจะเขียนใหม่ว่า "ผู้อ่าน ย่อมต้องการอ่าน เฉพาะในเว็บที่เขาเห็นว่า มีประโยชน์ต่อตัวเอง ฉะนั้น ผู้เขียนต้อง...." 
จากตัวอย่างนี้จะเห็นว่า จริงๆ แล้ว เขียนเรื่องเดียวกันคือ การเขียนบล็อกที่ดี แต่ข้อความเขียนไม่เหมือนกัน
วิธีเขียนบทความ seo

2. ไม่ลอกหรือก็อปของคนอื่น (ที่จริงก็จะเป็นลักษณะเดียวกับข้อ 1) เพราะการทำอย่างนี้จะไม่ทำให้เว็บเราอินเด็กซ์ เนื่องจาก Index มีความสำคัญต่อเว็บมาก เพราะถ้าไม่อินเด็กซ์ หากมีคนค้นหาคำที่เป็นคีย์เวิร์ดของเรา มันจะไม่เห็นเว็บเรา ผลก็คือ ไม่มีคนเข้าเว็บเราสักที (ซึ่งไม่ดีเลย) เช่น เราเขียนบล็อกเกี่ยวกับ การหาเงินกับ Adsense เราไปก็อปเอาเนื้อหาคนอื่นมา วาง และโพสต์ แบบนี้ถ้าเขาค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดว่า "การหาเงินกับ Adsense" ก็จะเจอในเว็บอื่น ก่อนเว็บของเรา เพราะของเราข้อความไปซ้ำกับคนอื่น

3. กะทัดรัด ไม่เยิ่นเย้อ เพราะจะทำให้คนอื่นติดตามอ่านได้ดีกว่า

4. เขียนถูกต้องตามหลักภาษา เพราะจะแสดงให้เห็นถึงภูมิรู้ของผู้เขียน

5. เป็นไปตามหลักการ SEO (อ่านดูข้างล่าง)

จะเขียนบทความได้อย่างไร เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ
1 มีวรรคตอน คือ เมื่อจบใจความสำคัญแต่ละอย่างแล้ว ให้เว้นวรรค เพื่อขึ้นใจความเรื่องใหม่

2 ต้องมีพล็อต (Plot) เรื่องที่จะเขียน กล่าวคือ
2.1 มีหัวเรื่อง 
2.2 มีหัวข้อย่อย 
2.3 มีเนื้อหาที่ดี
2.4 มีสรุป
เพราะหาก การเขียนบทความแต่ละเรื่อง ได้แบ่งพล็อตเรื่องที่ต้องการเขียนอย่างนี้แล้ว ย่อมจะขมวดเอาใจความมันเข้ามาเป็นเนื้อหาแบบแน่นๆ ได้ และเขียนเป็นเรื่องๆ ไป

3 หากไม่รู้จะเขียนอย่างไร ก็ทำเหมือนที่ผมเขียนในบทความนี้นะครับ คือ ตั้งเป็นคำถามเป็นข้อๆ แล้วเราก็ตอบคำถามนั้น ก็จะได้เรื่องที่เขียนได้ ไม่ติดขัด

ตัวอย่างเช่น ผมอยากจะเขียนเรื่อง "การเรียนต่อ" ผมก็อาจจะตั้งคำถาม ดังนี้

-การเรียนต่อดีหรือไม่
-เรียนอะไรดี/เรียนอะไรที่จบแล้วจะมีงานทำ
-เรียนที่ไหนดี
-ถ้าอยากเรียนแล้วไม่มีเงินพอจะทำอย่างไร
-ทำอย่างไรให้ได้เกรดสูงๆ
-เรียนอย่างไรให้มีความสุข
ฯลฯ
แบบนี้และครับ แล้วเพื่อนๆ ก็จะสามารถเขียนได้เป็นหน้าๆ หรือ หลายๆ หน้า

ต้องเข้าใจหลักการของ SEO ดังข้อ 4 เป็นต้นไป


4. การเขียนแต่ละครั้ง ควรมีคีย์เวิร์ด/key word/คำสำคัญ คือ คำที่เราจะให้เป็นตัวเอกในแต่ละบทความ เผื่อเวลาเราติดโฆษณาแล้ว มันจะแสดงแต่โฆษณาที่เกี่ยวข้องกับบทความของเรา แต่ว่า ไม่ควรมีคีย์เวิร์ดเกิน 4 คำ ในแต่ละบทความ ไม่เช่นนั้น อากู๋ (google) จะเห็นว่าเป็นสแปม จะพาลไม่ให้เว็บเราอินเด็กซ์อีก

แต่ก็มีวิธีเลี่ยงเช่นกัน โดยการแทรกอยู่กับคำอื่นๆ เช่น หากความใช้คีย์เวิร์ดว่า "รักเธอ" ผมก็จะใช้คำนี้ 4 ครั้ง โดยให้อยู่ที่ ชื่อบทความหรือ หัวเรื่อง 1 ที่, วรรคแรก(เกริ่น) 1 ที่, ในเนื้อหา อีก 1 ที่ และ ที่บทสรุปอีก 1 ที่ ... นอกจากนี้ หากผมอยากเขียน ผมก็จะใช้คำว่า "เกี่ยวกับความรัก ของเธอนั้น..." "เธอรักผมอยู่ไม่น้อย" "แม้ว่าจะรักมาก แต่เธอก็..." ประมาณนี้แหละครับ

5. คำที่เป็นคีย์เวิร์ด ควรจะจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกัน โดยการ"เคาะ"วรรคให้ห่างจากคำอื่นหน่อย (อันนี้อาจจะทำให้คนที่เน้นหลักภาษาตะหงิดๆอยู่เหมือนกัน แต่เรามุ่งที่ SEO ครับงานนี้เรื่องอื่นไม่ยุ่ง) ตัวอย่าง
...บล็อกเราได้สอนเทคนิคและวิธีการที่มีประโยชน์หลายอย่างรวมถึง วิธีเขียนบทความ เนื่องจากเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้ทำเว็บไซต์

6. ควรเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจ ในขณะนั้น เรื่องใดฮิตฮอต ก็จับเรื่องนั้นมาเขียน แบบนี้ จะทำให้มีคนเข้าเว็บเรามากขึ้น แต่สำหรับผม เอาเฉพาะที่ผมชอบ กับ ที่เห็นมีประโยชน์เป็นหลัก ครับ เพราะบ่อยครั้งที่ผมไม่สามารถอัพเดทเว็บ ซะป๊ะ ของผมให้ทันสมัยได้

นี่เป็นเรื่องในซีรี่ยส์ของเรื่อง สอนสร้าง blogger เรื่อง วิธีเขียนบทความ เพื่อให้ทุกคนได้นำไปใช้ให้เป็นประโยชน์และโกยเงินกันละครับ ตรงนี้คงจะเอาแบบย่อๆ ไว้ก่อน เดี๋ยวจะได้นำเรื่องยาวเล่ากันสักสองสามวันกว่าจะจบมาลงกัน อะ ล้อเล่น ก็ขอให้บทความนี้เป็นแนวทางสำหรับมือใหม่นะครับ มือเก่าคงรู้กันหมดล่ะ ไว้พบกันคราวหน้าขอให้รวยด้วยการเขียนบล็อกครับ



Tags: สอนเขียนบล็อกเกอร์, การเขียนบทความ, สร้างบล็อก, SEO

สอนการสร้าง blogger 3 :Post Article การเขียนบทความ

สอนการสร้าง blogger 3 :Post Article 


สวัสดีครับ นี่เป็นตอนที่ 3 ที่ว่าด้วย การเขียนบล็อก สอนสร้าง blogger เมื่อตอนที่ 2 เราได้พูดถึงการเริ่มต้นการเขียนบล็อกไปแล้ว ด้วยหัวข้อว่า สร้าง blogger ของ blogspot.com ไม่ใช่เรื่องยาก ย้ำอีกครั้งว่า นี่เป็นเพียง ขั้นเบสิก เท่านั้น เพราะบล็อกเศรษฐี blogsetthi.blogspot.com ของเราก็ได้พูดกันถึงว่า เมื่อเราได้สร้างสิ่งที่จำเป็นที่สุดใน การเขียนบล็อก การโพสต์บทความ การเขียนบทความ นั่นคือ

-การสมัคร
-การเขียน Title
-การเขียน Address (ชื่อบล็อก)
-การเลือก Template

ซึ่งทั้ง 4 อย่างนี้ เราได้ทำไปเรียบร้อยแล้วนะครับ

ส่วนการปรับแต่งบล็อกให้ดูดี สวยงาม ให้ดูแบบมือโปร เราจะพูดถึงกันในภายหลังนะครับ ตอนนี้เราจะพูดเฉพาะที่จำเป็น หรือ ความรู้เบื้องต้นก่อนก็แล้วกัน

วันนี้ บล็อกเศรษฐี (รวยเพราะบล็อก) อยากจะกล่าวถึง "การโพสต์บทความ" หรือ "การเขียนบทความ" แล้วโพสต์ให้คนอื่นได้อ่าน เพื่อเป็นการให้ความรู้ หรือเรื่องทั่วๆ ไปแล้วแต่ว่าสนใจของเรา

ขอแทรกหน่อยหนึ่งนะครับ คำว่า การเขียนบทความ ในที่นี้ หมายถึง การเขียนเรื่องราวต่างๆ ลงในบล็อก จะเป็นอะไรก็ได้ ไม่ได้หมายถึง การเขียนบทความทางวิชาการ นะครับ อย่าเข้าใจผิด แต่ก่อน ผมเห็นเพื่อนๆ หลายคนในเว็บบอร์ดที่ผมเป็นสมาชิกอยู่มักจะถามว่า บทความเขียนอย่างไร? จึงนำมาทำความเข้าใจกันก่อน

คำว่า บทความ (Article) นั้น ที่จริง ในภาษาอังกฤษไม่ได้มีอะไรมากครับ เขาใช้คำว่า Content for web/blog ครับซึ่งแปลว่า เนื้อหาสำหรับเว็บหรือบล็อก แค่นี้เอง ขอให้มันเป็นเนื้อหา ก็เป็นบทความสำหรับเว็บละ (ผมอยากใช้คำว่า เนื้อหา นะครับ แต่เขาใช้กันจนติดปาก ก็เลยต้องเรียกตามเขาว่า "บทความ")

เอาละ นอกเรื่องเยอะ เดี๋ยวจะเดือดร้อน เข้าเรื่องกันต่อเลยเนาะ

เมื่อเพื่อนๆ ได้ทำตามขั้นตอนทั้ง  4 ข้างบนนั้นในตอนที่ 2 แล้ว ก็จะเข้ามาที่หน้านี้ ซึ่ง จะสังเกตว่า ระบบบอกให้เราเชิงถามว่า "Your blog has been create Start posting | Dismiss" ก็คือ มันบอกเราว่า บล็อกของคุณได้สร้างเสร็จแล้ว (คุณจะทำอะไรต่อ ให้คลิก_ในวงเล็บผมเขียนเอาเอง) เริ่มโพสต์ (เลยไหมคลิก) | ปฏิเสธ (ยังไม่โพสต์/เขียนคลิกเลย) 

ก็ในเมื่อเราจะเขียนอยู่แล้วนี่ครับ ก็คลิกไปที่ Start posting เลย หรือ จะคลิกที่ ปุ่มสีเหลืองและมีดินสอขาวๆ นั่นก็ได้ 

เมื่อคลิกเข้ามาแล้วจะเห็นหน้าที่แสดงใหม่ ซึ่งจะมีองค์ประกอบดังนี้

การเขึยนบทความ หาเงินทางเน็ต


1 ช่องหมายเลขหนึ่ง ที่มีอักษรสีเทาๆ ว่า Post tile เราก็เขียนหัวข้อที่เราต้องการเข้าไป เช่น ของผม โพสต์นี้ ผมใช้หัวข้อว่า "สอนการสร้าง blogger3 :Post Article" เพื่อเป็นการบอกผู้อ่านว่า ผมจะเขียนเรื่องอะไร เพื่อผู้อ่านจะได้รู้หรือเลือกอ่านได้
ส่วนเพื่อนๆ จะเขียนเรื่องอะไร ก็คงมีอยู่ในใจ ตั้งแต่ก่อนจะทำบล็อกแล้ว ใช่ไหมครับ ก็ใส่มันเข้าไป อย่าได้เกรงใจ เอาเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ยิ่งดี เขาจะได้เข้าไปอ่านเยอะๆ 
หากต้องการจะเปลี่ยนหัวข้อตรงนี้ ก็สามารถแก้ไขได้ในภายหลังครับ ไม่ต้องห่วง

2 ที่พื้นสีขาวในกรอบ ตามหมายเลข 2 นี้คือ พื้นที่ ที่เราจะได้เขียนเนื้อหา หรือ บทความที่เราต้องการลงไป ก็ต้องเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่เราจะเขียนนั่นแหละ เช่น คนเป็นนักเรียน ก็อาจจะเขียนสิ่งที่พบเจอในชีวิตประจำว่า ว่า เรียนวิชานี้ วิชานั้นเป็นอย่างไร, ครูสอนสนุกเป็นอย่างไร เป็นต้น หรือ อาจจะเขียนบทกลอนต่างๆ ที่ตนเองแต่ง หรือ ใครที่ชอบฟุตบอล อาจจะเขียนเรื่องฟุตบอล ประวัตินักฟุตบอล สถิติ เป็นต้น แล้วแต่ชอบ พร้อมกับ อาจจะวิเคราะห์บอลก็ได้ หากมีความสามารถ

ส่วนผู้ใหญ่ ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ตัวเอง ชอบก็ได้ เช่น บางคนชอบการเกษตร ก็เขียนเรื่องการเกษตร บางคนชอบเรื่องศาสนา ก็เขียนกันไป บางคนมีโปรแกรมเยอะ ก็อาจจะเขียนเพื่อแบ่งปันโปรแกรมให้ผู้อื่น หรือ บางรายชอบเรื่องอย่างว่า ก็ทำได้เช่นกัน แต่ก็มีเทคนิคนะ อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าเขียนเกี่ยวกับสิบแปดบวกเดี๋ยวโดนแบนคือลบบล็อกทิ้งเลย

ทางด้านขวามือ ที่เขียนว่า Post Setting ก็คือ เป็นหมวดหมู่ ที่เราสามารถตั้งอะไรต่างๆ ได้หลายอย่าง แต่ละอย่างให้เราคลิกที่ชื่อของมัน แล้วจะขยายออกให้เราได้กรอก ดังตัวอย่างตามหมายเลข 3 ส่วนนี้ กับ วันที่ สามารถแก้ไข เพิ่มเติมได้ในภายหลัง

3 ช่องหมายเลข 3 เป็น Labels หรือ ป้ายกำกับข้อความ  คือ ส่วนที่เราจะจัดหมวดหมู่ด้วยตัวเอง เช่น ของผม ที่เขียนในชุดนี้ ผมก็จะใส่ว่า "blogger" หรือ "สอนเขียนบล็อกเกอร์" ประมาณนี้ เพื่อว่า เวลามีผู้ต้องการจะหาคำบางอย่าง เขาก็จะสามารถหามันได้ทั้งชุด และง่ายต่อการหาของเขา อีกนิดหนึ่งนะครับ เมื่อเขียนแต่ละคำ ให้ใส่คอมมา ( , ) คั่นด้วย ไม่เช่นนั้น ระบบจะนึกว่า มันเป็นคำเดียวกันหมด

เมื่อเราใส่ Labels หรือ ป้ายข้อความ เสร็จแล้ว ก็ให้คลิกที่ "Done

ส่วนนี้ สามารถเปลี่ยน หรือ แก้ไข เพิ่มเติมได้ในภายหลัง หากเราคิดว่าคำอื่นดีกว่า

4. Permanent Link หมายเลข 4 ตรงนี้จะเป็นลิงค์ถาวร กล่าวคือ เมื่อเราโพสต์บทความไปแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้อีก ฉะนั้น ก่อนจะโพสต์ ก็ต้องตรวจสอบให้ดี ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่สามารถแก้ไขได้ จะทำให้เราหงุดหงิดตัวเองได้ (ถ้าจะแก้ไขได้ กรณีที่เราเพิ่งจะโพสต์ได้สักนาทีสองนาที บทความยังไม่อินเด็กซ์ ก็ต้องก็อปบทความไว้ แล้วลบโพสต์นี้ และสร้างโพสต์ใหม่ ก็แค่นี้แหละ)

อีกอย่างหนึ่ง ชื่อใน Permanent Link นี้ ณ ปัจจุบัน ใช้ได้แต่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ส่วนภาษาไทยยังไม่สามารถเขียนได้ ข้อสังเกตอีกอย่างคือ ห้ามมีช่องว่างระหว่างคำ ห้ามมีอักษรพิเศษ หรือ สัญลักษณ์ ถ้ากลัวคำแต่ละคำผสมกัน ก็ใช้ไอเฟ่น (...-...) มาคั่นกลางได้เช่น Blog-Setthi เป็นต้น

กรณี Permanent Link ในบทความภาษาอังกฤษ ถ้าเราไม่ได้ตั้งอะไร ระบบก็จะเอาเรื่อง หรือ Title ของโพสต์ (หมายเลข 1) นั่นแหละครับมาเป็น ลิงค์ ฉะนั้น ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ เราไม่ต้องไปยุ่งมันก็ได้ ประหยัดเวลาไปอีกเยอะเลย

หากทำส่วนนี้ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คลิกที่ปุ่ม "Done"

5. ที่หมายเลข 5 เป็นการโพสต์เกี่ยวกับ วันที่ เดือน พ.ศ./ค.ศ. สาเหตุที่ผมเอามาไว้ทีหลัง เพราะตอนที่เราโพสต์ ไม่ต้องทำอะไรมันก็ได้ เพราะมันจะกำหนดได้เองโดยอัตโนมัติ ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ ไม่ต้องใส่ใจ

แต่ หากว่า เราต้องการจะเปลี่ยน วันเดือนปี ก็สามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง (ส่วนนี้ มันก็มีเทคนิคเหมือนกันนะครับว่า ทำไมต้องต้องเปลี่ยนมันด้วย คอยติดตามอ่านกันต่อได้เลย)

6. เมื่อเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ก็ให้คลิกที่ปุ่ม "Publish" เพื่อโพสต์บทความให้คนอื่นได้อ่าน หรือ เอาไว้อ่านเองก็ได้ทั้งนั้นและครับ 

7. เมื่อเราโพสต์ออกไปแล้ว ก็จะปรากฏหน้านี้ขึ้นมา ที่หมายเลข 7 นี้ หากเรามีเนื้อหา/บทความเยอะๆ ก็จะเห็นมันเรียงกันเป็นแถวเยอะแยะ แต่นี่ มีแค่โพสต์เดียว ก็เห็นแค่นี้แหละครับ 

เสร็จแล้วครับ แค่นี้ก็สามารถจะทำบล็อกได้แล้ว ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมจะนำมาอัพเดทให้เรื่อยๆ นะครับ การเขียนบล็อกเกอร์ ไม่ได้ยากหรอกครับ ง่ายมาก แต่ขึ้นอยู่กับเราว่า อยากจะให้มันเป็นอย่างไร บางคนไม่ต้องมีเว็บไซต์ แต่มีการเขียนบล็อกเรื่อยๆ ก็สามารถมาหาเงินจากค่าโฆษณาเยอะแยะ 

ครั้งต่อไป ขอนำเอา วิธีการเขียนบทความ มาให้เลยก็แล้วกันนะครับ เพราะว่า จะได้ เขียนบทความ ไว้บทเว็บตัวเองเยอะๆ แล้วค่อยเอาโฆษณามาติด ไม่ต้องใจร้อนครับ ค่อยเป็นค่อยไป มีเนื้อหาเยอะๆ ไว้ก่อน

ถ้าคิดจะติดโฆษณา เพื่อหาเงินเป็นค่าขนม ควรมีแทรฟฟิคหรือคนเข้าเว็บเราก่อน อย่างน้อย สัก 60-100 คนต่อวันขึ้นไป พร้อมทั้งต้องไม่ผิดกฏของ Google เขาด้วยนะถึงจะไม่ผิดหวัง ครับ

ครั้งหน้า ติดตามอ่านต่อเรื่อง การเขียนบล็อก การโพสต์บทความ การเขียนบทความ ให้มีผลดีต่อบล็อก/เว็บ แล้วผมจะกลับมาเขียนเรื่อง วิธีการปรับแต่งภายหลังนะครับ เพราะส่วนการปรับแต่ง ยังไม่สำคัญทำเนื้อหา เพราะคนทำเว็บจะรู้ดีว่า "Content is KING" ดูสิ สำคัญขนาดนี้เลย




Tag: การเขียนบล็อก, การโพสต์บทความ, การเขียนบทความ, โพสต์, seo, การสร้างบล็อก, บล็อกเศรษฐี, หาเงินด้วยการเขียนบล็อก, blogsetthi








สร้าง blogger ของ blogspot.com ไม่ใช่เรื่องยาก

สร้าง blogger ของ blogspot.com ไม่ใช่เรื่องยาก


การสร้างบล็อกเพื่อเขียนเรื่องราว หรือ เพื่อการหาเงินก็ได้ แบบฉบับคนธรรมดา


สวัสดีครับ มาเจอกันอีกแล้ว วันนี้ บล็อกเศรษฐี เราถือว่าเป็นภาค 2 ของการสอนทำบล็อกเกอร์ก็แล้วกัน หลังจากที่คราวก่อนได้เกริ่นเอาไว้ ว่า เราสามารถจะ สร้างบล็อก หรือ blogger ของ blogspot.com ได้ง่ายๆ และสามารถนำมาซึ่งรายได้แก่ตัวเอง ทั้งเพื่อขายของ หรือ ติดโฆษณา หรือ แบนเนอร์ต่างๆ จึงของเริ่มเลยก็แล้วกัน และขอใช้เรื่องของ blogsetthi.blogspot.com ของเราเป็นกรณีตัวอย่างก็แล้วกัน

เรื่องที่จะพูดถึงนี้ เหมาะสำหรับมือใหม่ หรือ ผู้ที่ยังทำไม่เป็นเท่านั้น ผู้ที่ทำเป็นแล้ว ผ่านไปเลย ไม่ต้องอ่าน ( บล็อกเศรษฐี เราไม่ได้หวงนะ แต่ไม่อยากให้ท่านเสียเวลา) เพราะจะสอนวิธีทำที่เป็นเบสิค เท่านั้น เพราะแค่นี้ก็ทำเงินได้แล้ว

การสมัครอีเมลของ gmail.com

1. การจะสร้างบล็อกในบล็อกเกอร์ได้ต้องมีบัญชีอีเมลของจีเมล  เสียก่อน ถ้ายังไม่มี ก็สมัคร email ของ gmail.com คลิกที่นี่  หรืออ่านต่อข้อ2 

2. ไปที่ blogger.com แล้วคลิกให้ที่ สร้างบัญชี คลิกที่นี่ ให้คลิกที่ปุ่มสีส้ม ซึ่งมีลูกศรชี้อยู่ ซึ่งระบบจะพาเข้าไปเพื่อทำการสมัคร แล้วจะมีคำถามว่าท่านมีบัญชีของ gmail หรือยัง? ก็คลิกที่คำว่า "ไม่" แล้วมันก็จะพาเพื่อนๆ ไปที่ gmail.com เหมือนกันนั่นแหละ ก็ทำการสมัครให้เรียบร้อยก่อนแล้วใส่ข้อมูลให้ครบถ้วย (ไม่ต้องเอาชื่อนามสกุลจริงก็ได้ แล้วแต่ความถนัดครับ) บางทีอาจจะต้องใส่แคปช่า 2 -3 ครั้งนะครับ อย่าท้อ เพราะมันคงต้องการพิสูจน์ว่าเราอยากมีอีเมลจริงๆ ใช่หรือไม่ กรอกเข้าไป เดี๋ยวก็ได้ ไม่ยาก ถ้าสมัครตามข้อสองนี้เสร็จเราก็จะเข้าไปที่บล็อกเกอร์โดยอัตโนมัติครับ

3. ถ้ามีอีเมลก่อนแล้ว ก็ให้มาสมัครการสร้างบล็อกได้ โดยคลิกที่ปุ่มที่ลูกศรชี้ ตามข้อ 2

4. ถ้าใครที่มีบล็อกแล้ว ก็แค่กรอกอีเมลกับรหัสผ่าน ก็เข้าไปใช้งานได้เลย

การสร้างบล็อกใน blogger

เมื่อมีอีเมลแล้ว ก็สามารถสร้างบล็อกใน blogger ของเพื่อนๆ ได้เลยครับซึ่งสามารถ กรอกอะไร ต่อมิอะไร ได้เลยครับ

1. ให้คลิกที่ปุ่ม "New Blog" ตามที่ลูกศรชี้ เพื่อเริ่มสร้างบล็อก
แล้วจะมีวินหน้าใหม่ป๊อบอัพขึ้นมา เพื่อให้เรากรอกข้อมูลในการสร้างบล็อก จากนี้ไปจะของพูดปตามแต่ล่ะตัวเลขไปเลยละกันครับ

2. Title หรือหัวเรื่อง ที่เราต้องการจะเขียนเป็นภาษาไทย (ถ้าใครจะทำเป็นบล็อกภาษาอังกฤษ ก็ใช้ Eng. เลยครับ) เพื่อบอกว่าเว็บเราเป็นเว็บอะไร เกี่ยวกับอะไร เป็นอย่างไร อย่างไร เช่น ของผมเขียนคำว่า "บล็อกเศรษฐี" เพราะว่าผมตั้งใจจะใช้บล็อกนี้ ใช้ประกอบการเขียนบล็อกนี้ เพื่อสอนให้หลายคนรู้วิธีทำและใช้ในการหาเงิน จึงชื่อว่า บล็อกเศรษฐี (ผมขอแปลว่า รวยเพราะบล็อก ดูดีขึ้นตั้งเยอะนะ)

3. Address ก็คือ ชื่อเว็บ หรือ บล็อก ของเรานั่นเอง (ที่จริงเว็บเราก็จะเป็น ซับโดเมนของ blogspot.com) เช่นของผมพิมพ์คำว่า "blogsetthi" ลงไป แล้วผมก็จะมีชื่อเว็บบล็อกนี้เป็น "http://blogsetthi.blogspot.com" ส่วนของเพื่อนๆ อาจจะใช้ชื่อตัวเอง หรือ ชื่อองค์กร หรือ อะไรก็ได้ แล้วแต่จะชอบ ที่จริงคนที่เก่งมากขึ้น เขาก็จะทำการวิจัย Key Word (คีย์เวิร์ด) ก่อนนะครับว่า คำนี้ มีคนค้นมากไหม สักเท่าไร เดี๋ยวคราวหน้า จะมาสอนวิธีการหาคีย์เวิร์ดให้ทีหลังครับ วันนี้เราคุยกันเรื่องพื้นฐานก่อน

แต่ถ้าชื่อที่เราต้องการมีคนจดเอาแล้ว มันก็จะบอกว่าเรา "this blog address is not avalable" หากเป็นเช่นนี้ ก็เปลี่ยนใหม่ จนเราเจอชื่อที่ว่างอยู่ ซึ่งก็จะมีสัญลักษณ์ปรากฏขึ้นอย่างตัวอย่างที่แสดงอยู่นี้ คือ มีปุ่มสีน้ำเงินและมีเครื่องหมายถูกอยู่ ตามที่ลูกศรชี้ พร้อมกับภาษาบอกว่า "This blog address is available" สบายใจละได้ชื่อแล้ว

4. Template คือ ลักษณะ หน้าเว็บของเรา ที่เราต้องการ ถ้ายังไม่มีความรู้เรื่องนี้มากนัก ก็อาจจะคลิกเลือกที่ Simple ก่อนครับ แล้วเราค่อยปรับแต่งทีหลังได้ ผมก็เอาแบบนี้และ ง่ายดีแต่งง่าย ถ้าเป็นแบบ Dynamic Views จะปรับยากนิดหนึ่ง 
อย่างไรก็ตาม เทมเพลตของบล็อกเรา สามารถเปลี่ยนภายหลังก็ได้ สามารถปรับอะไรได้มากมาย ไม่ต้องกังวลหรือกลัวว่าจะไม่สวย ผมได้ทดลองทำบล็อกหนึ่ง เพื่อการทดสอบ blogger template แบบวาไรตี้ ก็สวยไปอย่างครับ (อยากดูคลิกที่นี่ บล็อกข่าว)

5. เมื่อกรอกข้อมูลทุกอย่าง และเลือกเทมเพลตเสร็จแล้ว ก็คลิกที่ปุ่ม "Create Blog!" เพื่อสร้างบล็อกครับ

เมื่อเราได้คลิกเพื่อสร้างบล็อกแล้ว ก็จะกลับมาอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งจะมีไตเติ้ลของบล็อกเราปรากฏอยู่ ดังภาพ แต่หากเราได้สร้างหลายๆ บล็อก ก็จะมีรายชื่อเรียงกันลงไปตามลำดับครับ

ในที่มีสิ่งที่อยากจะบอกอีกสามอย่าง คราวนี้พูดถึงสั้นๆ ก่อนคราวหน้าจะบอกที่เยอะมากขึ้น คือ

6. ตามหมายเลข 6 ปุ่มสีเหลืองมีปากกาอยู่ คลิกตรงนี้ เพื่อการเขียนบทความ ผมจะนำมาลงให้อ่านเป็นโพสต์ถัดไปนะครับ ติดตามอ่านกันดู 


7. หมายเลขนี้ คลิกที่ปุ่ม "View blog" เป็นการดูบล็อก

8. หมายเลขนี้ คลิกที่ปุ่ม "New blog" เพื่อสร้างบล็อกเพิ่ม สำหรับคนที่เพิ่งหัดทำ ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ อย่างเพิ่งสร้างเพิ่ม รอทำบล็อกให้คล่องอีกสักนิดก่อน ไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้อัพเดทข้อมูลไม่ทัน

สำหรับการเขียนบทความเพื่อโพสต์ ก็มีเทคนิคเหมือนกันนะครับ โพสต์ต่อไปผมจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เพื่อประโยชน์ในการใช้หาเงินทางเน็ตกันต่อไป หากทำๆ ไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยก็อาจจะเสียหายได้ง่ายๆ เสียเวลาด้วย คอยติดตามกันต่อไปนะครับ รับรองว่า บล็อกเกอร์ สามารถสร้างเงินให้เพื่อนได้จริงๆ

การโพสต์บทความ <--คลิก

หมายเหตุ
-Title, Address และ Template หากเพื่อนๆ ไม่ชอบใจ สามารถเปลี่ยนได้ในภายหลัง
-หากอยากได้ Template แบบสวยๆ เท่ๆ ก็มีให้ดาวน์โหลดมาใช้กัน ฟรีๆ มากมาย ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ถูกใจ
-อย่าลืม อ่านต่อได้ ที่นี่

การสมัครอีเมลและการเริ่มการทำบล็อกเบื้องต้นนี้ ไม่ใช่เรื่องยากครับแป๊บเดียวก็ได้ละ แต่การจะทำ SEO ให้กับบล็อกเพื่อให้บล็อกของเราแรงนี่สิ น่าสนใจ ทาง blogsetthi.blogspot.com จึงจะขอทยอยนำมาให้ได้ศึกษาแบบเบื้องต้นกันไปเรื่อยๆ ก่อนนะครับ แล้วจะได้เข้าสู่บทเรียนที่ยากขึ้นต่อไป



Tag: blogger, blogspot, บล็อกเกอร์, สอนทำบล็อกเกอร์, หาเงินโดยใช้บล็อก, สอนสร้างบล็อก, บล็อกเศรษฐี, รวยเพราะบล็อก, หาเงินออนไลน์